บทความจาก Chillpainai.com : ปักหมุดจุดเช็คอิน กิน เที่ยวลำพูนสุดฟิน กับ 10 พิกัดเด็ด ห้ามพลาด! ถ่ายรูปเช็คอินแบบคูลๆ ที่ “ประตูท่านาง” 1 ใน 6 ประตูเมืองเก่าแก่ของนครหริภุญชัย ที่ใครมาเที่ยวลำพูนต้องหาโอกาสมาชมความงามและถ่ายรูปกันที่นี่ เพราะ "ประตูท่านาง" ไม่เพียงเป็นประตูเมืองโบราณที่เหลืออยู่แห่งเดียวของลำพูน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรหริภุญชัย ที่มีระบบการวางผังเมืองมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13 ก่อนจะบูรณะขึ้นใหม่ในสมัยพระเมืองแก้วแห่งราชวงศ์มังราย เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน แนวกำแพงก่อด้วยอิฐถือปูนที่ขนานไปกับแม่น้ำกวง แม่น้ำสายหลักของลำพูนแห่งนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพชิคๆ ที่ไม่ควรพลาดมาเช็คอิน เราเริ่มจากประตูเมืองขนาดใหญ่ เดินเลาะไปตามแนวกำแพงเมืองเก่าที่ยังหลงเหลือร่องรอยจากการบูรณะไว้ให้เห็นเป็นรูปร่าง เดินเลียบไปจนถึงทางเดินริมแม่น้ำกวง ซึ่งอยู่ด้านหลังแนวกำแพงของประตูท่านาง ซึ่งในอดีตบริเวณจุดนี้เป็นประตูท่าน้ำที่พระนางจามเทวีใช้เสด็จลงเรือเข้าออกพระนคร นอกจากนี้ยังเป็นประตูสำหรับการค้าทางเรือระหว่างเมืองต่างๆ ปัจจุบันนี้ปรับปรุงให้เป็นทางเดินริมแม่น้ำและมีท่าน้ำให้ชมวิวสองฝั่งแม่น้ำกวงได้ด้วย ที่ตั้ง : ตรงกันข้ามวัดช้างรอง ถ.รอบเมืองใน ต.ในเมือง อ.เมือง ลำพูน
พิกัด GPS. ประตูท่านาง ต.ในเมือง อ.เมือง ลำพูน : 18.579897, 99.009570
ทำพิธีลอดท้องช้างเจ้าพ่อกู่ช้าง สักการะกู่ม้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองลำพูน
แค่ได้ยินชื่อก็สะดุดหู กับ "กู่ช้าง กู่ม้า" โบราณสถานที่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์อีกแห่งของเมืองลำพูน ลักษณะเป็นสถูปทรงกระบอกปลามนสอบ ที่น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากเจดีย์บอบอคยีของพม่า โดยเฃื่อกันว่ากู่ช้างเป็นสุสานของพระยาช้าง "ภู่ก่ำงาเขียว" ซึ่งเป็นช้างทรงคู่บารมีของพระนางจามเทวี โดยนามภู่ก่ำงาเขียวหมายถึงช้างผิวสีคล้ำที่มีงาสีเขียวอันทรงอานุภาพและมีอิทธิฤทธิ์ ตามตำนานเล่าว่าเมื่อออกศึกสงครามเพียงแค่พระยาช้างหันหน้าไปทางศัตรูก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือ ในบริเวณกู่ช้าง ยังมีรูปปั้น "เจ้าพ่อกู่ช้าง" หรือ พระยาช้างชนะศึกงาเขียว สิ่งที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาที่แห่งนี้ คือ การไปทำพิธีลอดท้องช้างเจ้าพ่อกูฃ้าง เพื่อหลีกเคราะห์ตามความเชื่อโบราณ โดยการลอดใต้ท้องรูปปั้นช้างไปตามลูกศร 3 รอบ พร้อมตั้งจิตอธิษฐานแล้วเอาน้ำส้มป่อยพรมตามตัวเราอีกทีหนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธี เวลาไปเที่ยวแล้วได้เรียนรู้และทำตามธรรมเนียมความเชื่อแบบนี้ นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้เราเข้าถึงวิถีท้องถิ่นจริงๆ ด้านหลังกู่ช้างยังเป็นที่ตั้งของ "กู่ม้า" ที่เชื่อกันว่าเป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสพระนางจามเทวี ลักษณะเป็นสถูปทรงระฆังตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น แม้จะเป็นโบราณสถานเก่าแก่แต่ก็ดูกลมกลืนกับชุมชนที่อยู่โดยรอบ มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาสักการะและเดินชมสถูปเป็นระยะ ส่วนด้านข้างมีสวนสาธารณะให้คนในพื้นที่มาออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้บรรยากาศไม่ดูเงียบเหงาวังเวง ที่ตั้ง : ชุมขนวัดไก่แก้ว ซ.กู่ช้าง ต.ในเมือง อ.เมือง ลำพูน
เวลาเปิด : ทุกวัน 09.00 น. - 18.00 น.
พิกัด GPS. กูช้าง - กู่ม้า ต.ในเมือง อ.เมือง ลำพูน : 18.586764, 99.017816
เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์เมืองไทยที่ “แก่งก้อ” หนีความวุนวาย ลี้มลพิษไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันที่เมืองลี้ อำเภอเล็กๆ แต่อากาศดี้ ... ดี ห่างจากตัวเมืองลำพูนขับรถไปประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็จะได้พบกับเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาและผืนป่าเขียวขจี และยังมี "แก่งก้อ" ทะเลสาบท่ามกลางขุนเขาเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ที่วิวสวยจนได้ชื่อว่าเป็น "สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย" ถ้ามาในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เราจะได้สดชื่นกับวิวภูเขาสวยๆ สีเขียวสบายตา ในขณะที่น้ำในทะเลสาบก็ไม่แห้งจนเกินไป สามารถใช้บริการเรือไปเที่ยวในทะเลสาบได้ ถ้าใครมีเวลาไม่มากอาจเลือกแค่ล่องเรือชมทัศนียภาพรอบๆ ทะเลสาบแก่งก้อ หรือถ้าอยากไปตามรอบโลเคชั่นหนังดังอย่าง "คิดถึงวิทยา" ก็สามารถนั่งเรือเข้าไปเที่ยวชมโรงเรียนเรือนแพที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีต่อเที่ยว หรือถ้าอยากเที่ยวครบๆ ล่องเรือไปจนถึงถ้ำช้างร้องและพระธาตุแก่งสร้อย วัด Unseen ที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนภูมิพลในเขตจังหวัดตาก ซึ่งใช้เวลาเดินทาง ไป - กลับ ประมาณ 4 ชั่วโมง ต้องมีเวลาซัก 1 วันเต็มๆ กำลังดี ทริปนี้พวกเรามีเวลาไม่มาก เลยเลือกใช้บริการเรือนำเที่ยวของแพร้านอาหารที่อยู่ริมทะเลสาบ เพื่อชมวิวรอบๆ แก่งก้อ ไปจนถึงบริเวณช่องแคบที่ลำห้วยแม่ก้อและแม่น้ำปิงไหลมาบรรจบกัน สองฝั่งมีเรือนแพของชาวบ้านที่อยู่อาศัยรอบๆ ริมทะเลสาบ บรรยากาศสดชื่นและเป็นธรรมชาติมากๆ จนตั้งใจว่า หากมีโอกาสคราวหน้าจะมานอนค้างคืน ล่องแพชมทะเลสาบนานๆ ให้จุใจ หลังจากมาเที่ยวแก่งก้อแล้ว อาจจะไปชมความงาม "น้ำตกก้อหลวง" ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 13 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ปิงที่ 1 เพื่อชมความงามของน้ำตกที่ไหลลัดเลาะผ่าน หินงอก หินย้อย ของน้ำตกหินปูนที่มีความสูงลดหลั่นกันถึง 7 ชั้น กลายเป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกต ถ้ามองจากมุมสูงจะเห็นแอ่งน้ำเป็นรูปร่างคล้ายหัวใจ (ใครอยากมาเที่ยวช่วงหน้าฝน แนะนำให้เช็คกับทางอุทยานฯ ล่วงหน้าก่อน เพราะน้ำตกจะปิดเป็นบางช่วง) จุดเด่นของน้ำตกก้อหลวงคือ สีน้ำตกจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ช่วงเดือนที่น้ำตกสวยที่สุดคือ ช่วงฤดูหนาวปลายปีถึงต้นปี ตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งน้ำตกจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าใสเทอร์ควอยซ์สวยงาม เป็นอีกแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดต้องมาเช็คอินกันให้ได้สักครั้งหนึ่ง ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อ.ลี้ ลำพูน
โทร. : 093-8082827, 061-3753500
พิกัด GPS. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มป.2 (แก่งก้อ) ต.ก้อ อ.ลี้ ลำพูน : 17.686960, 98.752285