อช.ภูเรือ + สถานีเกษตรที่สูงภูเรือ (ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย)
(4-5 ธันวาคม 2559)
การไปพักผ่อนที่จังหวัดเลยนี้ต้องเปลี่ยนแผนกันเป็นครั้งที่สองครับ เพราะเชียงคานก็ทีนึงคนเยอะเกิ๊น อิอิ เราชอบสงบเลยขอไปตามทางของเรา..ฮ่าๆ ที่ อช.ภูเรือก็เช่นกัน พอรถไปถึงจุดสุดท้ายที่เป็นจุดกางเต็นท์ เล่นเอาพวกเรามึนตรึบแม้ขนาดที่จะจอดรถยังหายากเลยพี่น้อง เห็นแบบนี้เลยหันหัวรถเลี้ยวกลับลงทันที โดยใช้แผนสองที่เตรียมไว้แล้ว คือ
ศูนย์วิจัยพืชสวนเลยโน่นครับ
ขณะเดินทางออกจากจุดกางเต็นท์บนภูเรือ เห็นนักท่องเที่ยวหลายท่านมาแอบจอดรถกางเต็นท์ข้างๆทางที่มีป้ายห้าม แต่เอาเถอะห้ามก็ห้ามไปมันเต็มนี่นาจะให้นักท่องเที่ยวไปนอนตรงไหนหล่ะ เพราะท่านไม่ได้มีข้อห้ามและจำกัดนักท่องเที่ยวไว้แบบ อช.ขุนสถาน เพราะที่นั่นเต็มคือเต็มครับ ไม่มีข้อยกเว้นอนุโลม เต็มคือให้ลงครับ แต่ถ้าจะแวะชมเค้าอนุญาต
ทีนี้ผมมีข้อแนะนำนะครับ
สำหรับการบริการที่เป็นสถานท่องเที่ยวพักผ่อนแทบทุกที่ ผมจะแนะนำว่าควรมีบริการเครื่องทำน้ำอุ่นครับ ทุกท่านมาเที่ยวมาพักผ่อนให้กำไรชีวิต ทางรัฐควรจัดสวัสดิการตรงนี้ให้นักท่องเที่ยว ไม่ใช่ให้มาอาบน้ำแบบหนาวสั่นแทบช็อคน็อคหมดสติเพราะความหนาวเหน็บ อุทยานแห่งชาติเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน ไม่ใช่สมบัติของพวกท่านหรือพวกข้าราชการที่ใช้สิทธิ์ดีกว่าคนที่เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้ท่านได้สนองความสุขกัน ได้อาบน้ำอุ่นๆจากเรือนรับรอง
คนท่องเที่ยวทั่วไปกลายเป็นคนชั้นสองไปสะนี่ ฝากท่านที่มีอำนาจพิจารณาตรงนี้ด้วยครับ ส่วนหลายคนที่ออกมาค้านผมที่เคยพูดไว้หลายที่ว่า ไปป่าก็ควรเข้ากับธรรมชาติสิครับ พอๆๆๆเลิกๆๆๆๆ ไปพักผ่อนในป่าเขาถ้าจัดบริการน้ำอุ่นได้ คนอาบเค้าก็มีความสุขหลังอาบน้ำ พอมีความสุขสุขภาพก็ตามมา ดีกว่าคิดว่าจะไปพักผ่อนแต่พอนึกถึงภาพตอนอาบน้ำ ปานกับเห็นนรก ป๊าดโท๊ะ...
อ่ะ..นอกเรื่องมาเยอะ ไปๆ ไปดูภาพที่พอทน..ฮ่าๆๆๆ เพื่อเป็นหลักฐานว่ามาภูเรือแล้วนะ จะได้ไม่ตกยุคเวลาใครถาม
1. ภาพนี้เป็นเส้นทางลัด ระหว่างล่องจากเชียงคาน-เลย แต่แยกเลี้ยวขวาเข้าป่าก่อนถึง จ.เลย เพื่อดื่มด่ำธรรมชาติให้เต็มอิ่ม ทางเส้นนี้เงียบสงบแล้วไปตัดกับสายท่าลี่ เราเลี้ยวซ้ายครับ เพื่อไปบรรจบเส้นทาง เลย-ภูเรือ