สังคมแห่งการแบ่งปันนี้จะไม่มีสิ่งที่เพื่อนต้องการ เมื่อเพื่อนๆ มาแวะเยี่ยมแล้วไม่ฝากสิ่งใดไว้..!! กลุ่มเว็บนี้.. ดำรงไว้ซึ่ง คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม จรรยาบรรณ ไม่เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ตักตวงผลประโยชน์เข้าตน..
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แต่เชื่อไหมว่า หูผมไม่ได้เพี้ยน เหตุมันเกิดว่าให้ตำรวจสระบัวเข้าตรวจสอบผู้ต้องสงสัยกำลังอุ้มหญิงสูงวัยขึ้นรถทำนองกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งผมได้ตะโกนบอกภรรยาว่าเฮ้ยแม่มรึง มีเหตุการผิดปกติเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ สน.สระบัวที่เราอยู่ แต่เป็นบริเวณคอนโดฯลีโอ แต่ทำไมข่าวมันไปบอกว่าเหตุเกิดในพื้นที่ท่าตูม งง สิครับ เพราะคอนโดลีโอมันพื้นที่เขตรับผิดชอบ สน.สระบัว โดยมีคลองกลั้น ถัดไปอีกไม่กี่เมตรเป็นพื้นที่ตำบลกรอกสมบูรณ์ แล้ว ต.ท่าตูม มายังไง....งงและการหลบหนีไล่ล่า ฟังจากวิทยุตำรวจที่ไล่ล่า มันใช้เส้นทาง แยกวัดทุ่งประพาส วังขอน มุ่งหน้าสามแยกฟาร์มหมู ตรงมาทาง สน.สระบัว ไม่ได้ใช้เส้นทางหนองค้า-เขาไม้แก้วสักหน่อย งั้นข่าวช่อง7 มั่วละครับแต่ไปถึงบางอ้อข่าวจากช่องสำนักข่าวไทย ชัดเจนเลยครับ
https://www.facebook.com/pracharthai/posts/1127683440968925ปราจีนบุรี ไอ้โม่งท้าทายกฎหมาย บุกเดี่ยวชิงทรัพย์ มัดมือหญิงอุ้มขึ้นรถมุ่งหน้าเข้าชายแดนเขมรดูวีดีโอได้ที่ https://youtu.be/EVjzCd1_0aoวันนี้ 3 พ.ย. 64 เวลา 16.30 น.ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่ สถานีภูธรศรีมหาโพธิ เพื่อเดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหา โดยมี พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิทธิ์ศักดิ์ ผกก.สถานีภูธรศรีมหาโพธิ และ พ.ต.อ.สิทธิโชค ลือโลก ผกก.สถานีภูธรสระบัว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สระบัว 1 สระบัว2 สายตรวจรถยนต์ 20 สายตรวจราชสีห์และชุดสืบสวนได้รับแจ้งเหตุว่ามีชายบุกเดี่ยวเข้าชิงทรัพย์ผู้ต้องหาทาง สภ.สระบัวได้รับแจ้งจึงร่วมกัน ลงพื้นที่บ้านบ่อตาดำ หมู่ที่ 5 ตำบลลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้พบชายผู้ต้องสงสัยขับรถกระบะสี่ประตู ยี่ฮ้อมิตซูบิชิไทรตัน สีดำ ทะเบียน กม 8586 ลพบุรี เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจค้นจึงได้พบ คุณป้าถูกสายชาร์ตโทรศัพท์2เส้นมัดอยู่ที่ข้อมือผู้เสียหายพร้อมกันนั้นยังมีผ้าขนหนูผืนเล็กสีชมพูมัดปิดปากผู้เสียหายและมีดปลายแหลมยาวประมาณ15นิ้ววางอยู่ด้านข้างคนขับอีกจากคำบอกกล่าวจากผู้เสียหาย(คุณป้า)ได้บอกว่าตนเองได้นั่งอยู่ในห้องนอนมีคนร้ายเป็นชายบุกเดี่ยวเดินเข้ามาในห้องพร้อมใช้มีดปลายแหลมจี้ชิงทรัพย์เอาเงิน(คุณป้า)บอกว่ามีเงินอยู่แค่1,500บาทซึ่งทำให้คนร้ายไม่พอใจจึงได้จับตัว(คุณป้า)ขึ้นรถไปด้วยเพราะคนร้ายเห็นทองรูปพรรณจาก(คุณป้า)จำนวนมากจึงหวังจะนำไปที่ลับตาคนเพื่อทำการปลดทรัพย์ แต่โชคดีที่คนร้ายขับรถมาได้ไม่ไกลมีพลเมืองดีเห็นคนร้ายกำลังทำร้ายร่างกายอยู่จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากจับกุมได้แล้วได้ทราบชื่อคนร้าย ชื่อนายคมสรรค์ มุ่งอาษา อายุ 37 ปี ที่อยู่ 14 ม.3 ต.ไทรทอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปชี้ทำแผนพร้อมรับคำสารภาพดำเนินคดีต่อไปความผิดฐาน"บุกรุกในเคหสถานผู้อื่น ชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยใช้อาวุธ(มีด) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายภาพ ข่าว นอง&ตาล&เก่ง บูรพา #หนังสือพิมพ์ประชาไทนิวส์ออนไลน์ จังหวัดปราจีนบุรี รายงาน
อันนี้ข่าวช่อง7https://news.ch7.com/detail/526905วันนี้ (3 พ.ย. 64) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ สินทร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งเหตุจาก 191 ว่ามีเหตุคนร้ายชายเข้าไปในห้องพักของเจ้าของอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และใช้มีดจี้บังคับพาผู้หญิงสูงอายุเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ ขึ้นรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กม 8685 ลพบุรี หลบหนีไป จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ ทราบหลังรับแจ้ง พ.ต.อ.วิวัฒน์ ได้วิทยุไปยัง สภ.ต่างๆ ให้สกัดจับคนร้าย โดยรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้า ทาง อ.กบินทร์บุรี ใช้ถนนสาย 304 ศรีมหาโพธิ - กบินทร์บุรี จากนั้นตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ รวมทั้ง สภ.กบินทร์บุรี และ สภ.สระบัว จึงได้ติดตามพร้อมตั้งจุดสกัดตามเส้นทาง เมื่อคนร้ายขับรถมุ่งหน้าไปถึงวิทยาลัยการอาชีพ อ.กบินทร์บุรี มองเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดสกัด จึงได้กลับรถเข้าถนนหนองคล้า – เขาไม้แก้ว แต่คนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระบัว ตั้งจุดสกัดที่หน้า สภ.สระบัว จึงได้กลับรถขับหนีมุ่งหน้าเข้าไปในซอยจากนั้นตำรวจจึงติดตามรถคนร้ายเข้าไป และใช้อาวุธปืนยิงสกัดที่บริเวณยางล้อรถหลังด้ายซ้ายจนยางแตก และเป็นช่วงถนนสายดังกล่าวเป็นซอยตัน คนร้ายจึงวิ่งออกจากรถเข้าไปในทุ่งนาข้าว ก่อนจะติดตามจับตัวได้ที่บริเวณข้างโกดังหมู่บ้านกองเงิน ในพื้นที่ ม.5 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมนำตัวผู้ต้องหา ทราบชื่อต่อมา คือ นายคมสรรค์ มุ่งอาษา อายุ 38 ปี ชาว จ.สระแก้ว พร้อมรถยนต์ และผู้เสียหายที่อยู่ในรถ คือ นางพิมลักษณ์ อนันต์ประเสริฐ อายุ 63 ปีตรวจสอบภายในรถของคนร้าย พบมีดปลายแหลมยาว 12 นิ้ว อยู่ใต้เบาะด้านข้างคนขับ 1 เล่ม บนเบาะพบถุงมือผ้า สายชาร์จโทรศัพท์สีดำที่ถูกตัดขาดหล่นอยู่ หมวกไอ้โม่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการตรวจสอบร่างกายของผู้เสียหาย พบว่าบริเวณหน้าผากด้านซ้ายปูดบวม ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ บริเวณข้อมือข้อเท้าหัวเข่ามีรอยแผลถลอกจากการถูกเชือกรัดเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้ยานพาหนะหลบหนี, จี้ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ, ลักกพาตัวกักขังหน่วงเหนี่ยว, บุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนที่จะนำตัวไปดำเนินคดีต่อไปสอบสวน นายคมสรรค์ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เช่าห้องพักที่อะพาร์ตเมนต์ดังกล่าว และตกงานมา 2 ปีเศษ ทำให้เป็นหนี้ทั้งค่างวดรถยนต์ ค่าห้องพัก จึงได้ทำการกู้เงินจากแอปกู้เงินออนไลน์ จนเป็นหนี้เป็นจำนวนมาก จนทำให้เครียดได้ก่อเหตุครั้งนี้ขึ้น โดยเข้าไปในห้องพักของเจ้าของผู้เสียหายทางประตูห้องครัว สวมไอ้โม่งสีเขียวเทาปิดคลุมใบหน้า ก่อนเดินเข้าไปที่ห้องนอนค่อมตัวผู้เสียหาย และใช้มีดปลายแหลมจี้บังคับที่ลำคอ และบอกให้ผู้เสียหายเปิดแอปฯธนาคาร เพื่อขอดูยอดเงินบัญชี แล้วบังคับให้โอนเงิน แต่ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีอินเทอร์เน็ต จึงไม่สามารถโอนเงินได้ต่อมาได้รื้อคันทรัพย์สิน โดยได้เงินสดไปจำนวน 1,540 บาท โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย 1 เครื่อง ก่อนจะใช้มีดจี้บังคับผู้เสียหายไปขึ้นรถยนต์ ขับหลบหนีมุ่งหน้ามาตามเส้นทางกบินทร์บุรี ระหว่างทางผู้เสียหายดิ้นรนไปทางด้านเบาะหลังรถยนต์ จนไม่สามารถขับรถไปต่อ จึงได้จอดรถบริเวณฝั่งตรงข้ามหอพักแห่งหนึ่ง ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี แล้วจับผู้เสียหายมัดมือ มัดเท้า ด้วยสายชาร์จโทรศัพท์ และปิดปากด้วยผ้าขนหนูสีชมพู และจับตัวผู้เสียหายไว้เบาะหลัง ก่อนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวได้ในเวลาต่อมาผู้ต้องหาบอกอีกว่า ตกงานมาเป็นเวลา 2 ปี จึงได้หางานทำรับจ้างทั่วไป และได้ไปกู้เงินผ่านแอปฯประมาณ 20 กว่าแอปฯ เป็นเงินประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท และยังมีค่าห้อง ค่างวดรถ รวมแล้วมีหนี้อยู่ประมาณ 2 แสนบาท โดยหลังจากที่ตนกู้ไปแล้วขาด ส่งทางเจ้าหนี้จึงได้โทรไปหาทางญาติพี่น้อง และโทรไปหาทางผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งกำนัน ซึ่งเจ้าหนี้แฮ็กข้อมูลของตนทางเบอร์โทร แล้วขู่ว่าจะไปฆ่าพ่อแม่ของตน จะไปฆ่าลูกของตน จะยิงทิ้ง และเขายังส่งรูปที่มีคนเคยโดนทำร้ายมาให้จนดู ทำให้นอนไม่หลับมา 3-4 คืนสำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ก็เพราะตนถูกเจ้าหนี้โทรมาตามและข่มขู่สารพัด ตนจึงตัดสินใจเข้าไปหาเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ที่ตัวเองเช้าอยู่ เพื่อที่จะขอยืมเงิน แต่ซ้อให้ตนมา 1,000 บาท ตนเลยบอกซ้อให้ขึ้นรถไปคุยกับตนหน่อย ตนเลยพาซ้อออกมาข้างนอก ตนอยากจะขอโทษทางญาติพี่น้องของซ้อ และขอโทษซ้อที่ให้ความอุปการะในเรื่องของที่พัก สาเหตุที่ทำไปตนคิดอะไรไม่ออก เลยตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้นด้าน นางพิมลักษณ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ของวันนี้ ขณะนั้นตนได้นอนอยู่ภายในห้องกับแม่ คนร้ายได้มาคร่อมร่างของตน โดยคนร้ายใสหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า และใช้มีดจี้ตนเพื่อเอาเงินและบังคับตนให้ตนขึ้นรถไปกับเขา ระหว่างที่อยู่บนรถตนถูกจับมัดมือมัดเท้า และถูกใช้ผ้าขนหนูสีชมพูมัดปิดปากไว้ คนร้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นลูกหอที่มาเช่าห้องของตนอยู่ ลูกหอคนนี้ได้มาเช่าห้องอยู่ที่นี่นานแล้ว ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้นตนก็ไม่ทราบ แต่เขายังค้างค่าเช่าห้องของตนอยู่เป็นเวลาเกือบปี รวม 35,000 บาท เขานัดว่าจะจ่ายค่าห้องให้ตนก็ได้แต่รอจวบจนทุกวันนี้
อันนี้ของช่อง สำนักข่าวไทย (ข่าวแม่น ถูกต้อง)https://tna.mcot.net/region-816091ปราจีนบุรี 3 พ.ย.-คนร้ายบุกใช้มีดจี้เจ้าของหอพักบังคับเอาเงินแต่มีน้อยไม่พอใจ มัดมือลากตัวขึ้นรถเพื่อโอนเงินให้ พลเมืองดีเห็นแจ้งตำรวจ ไล่ล่ายิงยางให้หยุด สุดท้ายจอดรถวิ่งหนี ก่อนจนมุม รับสารภาพต้องการเงินไปใช้หนี้นอกระบบผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายคมสรรค์ มุ่งอาษา อายุ 37 ปี บุกเข้าไปในหอพัก พื้นที่หมู่10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ใช้มีดพกยาว 15 นิ้ว จี้นางพิมพ์ลักษณ์ อนันต์ประเสริฐ อายุ 63 ปี เจ้าของหอแล้วบังคับเอาเงิน แต่มีแค่ 1,500 บาท ทำให้ไม่พอใจ ใช้มีดจี้คอแล้วมัดมือลากไปที่รถกระบะสีดำ 4 ประตู ก่อนรีบขับออกไปจากหอพัก ซึ่งขณะนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์จึงแจ้งไปยัง 191นายคมสรรค์ จับเจ้าของหอมัดมือมัดเท้าปิดปาก ขับไปทางถนนสาย 304 มุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี ก่อนไปหยุดรถฝั่งตรงข้ามหอพักลีโอหมู่ 1 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมบังคับให้โอนเงินเข้าแอปพลิเคชัน แต่ไม่ทันได้โอน ก็มีพลเมืองดีผ่านมาเห็นพฤติกรรมคนในรถ จึงแจ้งไปยัง สภ.สระบัว เมื่อตรวจสอบแล้ว เลขทะเบียนตรงกับที่ได้รับแจ้งจาก 191แต่เมื่อตำรวจมาถึง รถคันดังกล่าวขับมุ่งหน้าหนีไปทาง อ.กบินทร์บุรี จึงขับรถตาม จนถึงจุดกลับรถหน้าด่านกักกันสัตว์ สนง.ปศุสัตว์จังหวัดปราจีนบุรี รถเลี้ยวย้อนลงมาทางที่มุ่งหน้า จ.ฉะเชิงเทรา ถึงบ้านทุ่งประพาส รถคันดังกล่าวก็เลี้ยวเข้าเส้นทางสระบัวผ่านฟาร์มสุกร เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงวิทยุให้ดักด้วยการนำรถมาขวางแต่ไม่เป็นผล คนร้ายได้ขับหนีไปอีก ร.ต.ท.วัฒนพร บุญลือ รอง สวป.สภ.สระบัว จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืน M4 ยิงใส่ยางล้อหลังซ้ายเพื่อให้หยุด แต่รถยังวิ่งหนีไปในซอยร้านอาหาร ฟาร์มเฮาส์ ก่อนทิ้งรถวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ตามจนสามารถจับกุมตัวได้ ก่อนนำตัวส่ง สภ.ศรีมหาโพธิ เพื่อเจ้าของพื้นที่ดำเนินคดี