วัดมเหยงคณ์ จ.อยุธยา
พิกัดGPS N14.363839 E100.594514
http://www.watmaheyong.org
ประวัติโดยย่อวัดมเหยงคณ์
วัดมเหยงคณ์ เดิมเป็พระอารามหลวง โดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่๒ (เจ้าสามพระยา) ทรงสร้างขึ้น และได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้งในหลายสมัย แต่ได้กลายเป็นวัดร้าง เข้าใจว่านับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่๒ ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ รวมเวลาล่วงเลยมา ๒๐๐ กว่าปี
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ พระอธิการสุรศักดิ์ เขมรังสี (ปัจจุบันคือ พระครูเกษมธรรมทัต) ได้จาริกมาพบวัดมเหยงคณ์ร้างซึ่งปกคลุมไปด้วยป่ารกชัฏไปทั่วบริเวณ จนแทบไม่สามารถมองเห็นซากปรักหักพังของพระอุโบสถและพระเจดีย์หลายองค์ ที่รายล้อมอยู่ระหว่างกำแพงแก้ว ๒ ชั้น ดูเผินๆ เสมือนเป็นป่าเปลี่ยว ไม่มีถนนหรือทางเข้าออก
นับตั้งแต่นั้นมา พระอาจารย์เขมรังสี ได้พัฒนาวัดมเหยงคณ์ร้าง โดยมีคณะพระภิกษุ สามเณร และญาติโยมผู้มีศรัทธา ได้มาร่วมแรงร่วมใจกัน หักร้างถางพงไม้ที่ปกคลุมออกจนหมดสิ้น และทำความสะอาดโบราณสถาน ตลอดจนบริเวณรอบๆ วัดฯ ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย จึงได้ดำเนินการให้กรมที่ดินทำรังวัด และออกโฉนดที่ดินของวัดมเหยงคณ์ ปรากฏว่า มีที่ดินของวัดประมาณ ๔๔ ไร่
จากนั้นพระอาจารย์ฯ จึงได้จัดตั้งสำนักปฏิบัติกรรมฐานขึ้นในบริเวณพื้นที่นอกโบราณสถานมีชื่อว่า "สำนักปฏิบัติกรรมฐานวัดมเหยงคณ์" โดยมีพระภิกษุ สามเณร อุบาสก และอุบาสีกา มาปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมาก
ในวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมกระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศจัดตั้ง สำนักปฏิบัติกรรมฐานฯ ให้มีสถานะเป็นวัดขึ้น ในพื้นที่ใหม่ใกล้กับโบราณสถานวัดมเหยงคณ์ โดยให้นามว่า "วัดมเหยงคณ์" มี พระครูเกษมธรรมทัต (เขมรังสี ภิกขุ) เป็นเจ้าอาวาส
ปัจจุบัน วัดมเหยงคณ์ เป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา จึงเสมือนเป็นการฟื้นฟูสภาพวัดอรัญญวสี (วัดป่า) มีพระสงฆ์ปฏิบัติวิปัสสนาธุระ ดังที่เคยเป็นในอดีต ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ให้กลับมารุ่งเรืองใหม่อีกครั้งหนึ่ง
แต่เนื่องจากกรมศิลปกรได้ขึ้นทะเบียนพระอุโบสถเดิมไว้เป็นโบราณสถานและเป็มรดกโลก จึงต้องอนุรักษ์ไว้ตามสภาพซากโบราณสถาน ดังนั้น พระอาจารย์จึงดำริร่วมกับพระสงฆ์ คณะกรรมการวัดฯ และญาติโยม ในการสร้างพระอุโบสถขึ้นในบริเวณวัดมเหยงคณ์ใหม่ ซึ่งได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แล้วในวันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ตรงกับวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีจอ
พิกัดN14.363839, E100.594514






















พิกัดGPS N14.363839 E100.594514
http://www.watmaheyong.org
ประวัติโดยย่อวัดมเหยงคณ์
วัดมเหยงคณ์ เดิมเป็พระอารามหลวง โดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่๒ (เจ้าสามพระยา) ทรงสร้างขึ้น และได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้งในหลายสมัย แต่ได้กลายเป็นวัดร้าง เข้าใจว่านับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่๒ ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ รวมเวลาล่วงเลยมา ๒๐๐ กว่าปี
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ พระอธิการสุรศักดิ์ เขมรังสี (ปัจจุบันคือ พระครูเกษมธรรมทัต) ได้จาริกมาพบวัดมเหยงคณ์ร้างซึ่งปกคลุมไปด้วยป่ารกชัฏไปทั่วบริเวณ จนแทบไม่สามารถมองเห็นซากปรักหักพังของพระอุโบสถและพระเจดีย์หลายองค์ ที่รายล้อมอยู่ระหว่างกำแพงแก้ว ๒ ชั้น ดูเผินๆ เสมือนเป็นป่าเปลี่ยว ไม่มีถนนหรือทางเข้าออก
นับตั้งแต่นั้นมา พระอาจารย์เขมรังสี ได้พัฒนาวัดมเหยงคณ์ร้าง โดยมีคณะพระภิกษุ สามเณร และญาติโยมผู้มีศรัทธา ได้มาร่วมแรงร่วมใจกัน หักร้างถางพงไม้ที่ปกคลุมออกจนหมดสิ้น และทำความสะอาดโบราณสถาน ตลอดจนบริเวณรอบๆ วัดฯ ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย จึงได้ดำเนินการให้กรมที่ดินทำรังวัด และออกโฉนดที่ดินของวัดมเหยงคณ์ ปรากฏว่า มีที่ดินของวัดประมาณ ๔๔ ไร่
จากนั้นพระอาจารย์ฯ จึงได้จัดตั้งสำนักปฏิบัติกรรมฐานขึ้นในบริเวณพื้นที่นอกโบราณสถานมีชื่อว่า "สำนักปฏิบัติกรรมฐานวัดมเหยงคณ์" โดยมีพระภิกษุ สามเณร อุบาสก และอุบาสีกา มาปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมาก
ในวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมกระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศจัดตั้ง สำนักปฏิบัติกรรมฐานฯ ให้มีสถานะเป็นวัดขึ้น ในพื้นที่ใหม่ใกล้กับโบราณสถานวัดมเหยงคณ์ โดยให้นามว่า "วัดมเหยงคณ์" มี พระครูเกษมธรรมทัต (เขมรังสี ภิกขุ) เป็นเจ้าอาวาส
ปัจจุบัน วัดมเหยงคณ์ เป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา จึงเสมือนเป็นการฟื้นฟูสภาพวัดอรัญญวสี (วัดป่า) มีพระสงฆ์ปฏิบัติวิปัสสนาธุระ ดังที่เคยเป็นในอดีต ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ให้กลับมารุ่งเรืองใหม่อีกครั้งหนึ่ง
แต่เนื่องจากกรมศิลปกรได้ขึ้นทะเบียนพระอุโบสถเดิมไว้เป็นโบราณสถานและเป็มรดกโลก จึงต้องอนุรักษ์ไว้ตามสภาพซากโบราณสถาน ดังนั้น พระอาจารย์จึงดำริร่วมกับพระสงฆ์ คณะกรรมการวัดฯ และญาติโยม ในการสร้างพระอุโบสถขึ้นในบริเวณวัดมเหยงคณ์ใหม่ ซึ่งได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แล้วในวันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ตรงกับวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีจอ
พิกัดN14.363839, E100.594514





















