ปืนอัดลม pcp แรงดันสูง (เพื่อการศึกษา) กับปัญหาการทดสอบความแม่น / ไม่แม่น
การผลิตชิ้นส่วนปืนอัดลมที่ผลิตขายเพื่อการศึกษากันทั่วโลกนั้นคือหนูลองยาของนักศึกษามืออาชีพและมือสมัครเล่น เพราะการผลิตคิดค้นทำมาขายกันนั้นมันมี 2 ลักษณะ คือ

1. การยึดกล้องเล็ง ไม่จับลำกล้องปืน (ลักษณะนี้ศูนย์ลำกล้องเพี้ยนทุกเวลา)
ส่วนมากจะเป็นปืนที่เอาลำกล้องไปเสียบไว้สั้นๆกับชุดโหลดลูก คือเสียบเข้าไปประมาณ 3-5 ซม. เวลาปลายลำกล้องไปโดนอะไรนิดหน่อย จะทำให้ลำกล้องเคลื่อนเบี่ยงเบน แค่ไมโครมิลแต่ปลายทางนั้นไปเป็นฟุต แล้วแบบนี้จะไปยิงอะไรได้ เวลาออกงานทีนึงต้องไปนั่งเล็งยิงทดสอบและปรับศูนย์กล้องทีนึง ส่วนมากปืนชนิดนี้บรรดามือสมัครเล่น หรือ มือใหม่ชอบซื้อมาเล่นกัน ราคาก็หมื่นต้นๆถึงหมื่นปลาย
ปืนชนิดนี้สำหรับผู้เล่นไทยและต่างประเทศต้องไปหาชื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิตที่ต่างคนต่างผลิต แบบไม่บูรณาการ หรือ ไม่มีมาตรฐาน เช่นจุดยึดแต่ละชิ้นที่เข้าด้วยกัน ไม่มีลิ้น ไม่มีสลัก ไม่มีมาร์ค ไม่มีเดือย เพื่อให้ชิ้นส่วนมันแน่นเป็นชิ้นเดียวกัน เช่นจุดยึดเร็คกุเลเตอร์ปรับลมที่สวมเข้าชุดโหลด บางค่ายยึดสกรูแค่ 2 ตัว บางค่าย4ตัว (อันนี้แน่นหน่อย ไม่คลอน) ประมาณว่าขาดประสบการณ์ บางค่ายขนาดค่ายเดียวกันยังทำมาแบบมักง่ายเลย

2. การยึดกล้องเล็ง แบบจับลำกล้อง (ลักษณะนี้ศูนย์ลำกล้องจะเสถียรมาก)
ส่วนมากถ้าเป็นปืนที่ผลิตในต่างประเทศก็คือ Impact FX M3 (ตามภาพแนบนี้เลย) หรือเป็นปืนที่ผลิตในไทยที่จุดยึดกล้องเล็งจับลำกล้องปืน หรือ ลำกล้องปืนสอดผ่านยาวเลยไปด้านหลัง มันเสถียรเพราะไม่ว่าลำกล้องจะโดนกระแทกเบี่ยงเบนไปทางไหน กล้องเล็งมันจะไปด้วยกัน การเซ็ตศูนย์กล้องครั้งนึงเล่นกันไปยาวๆ จนแทบลืม คนไทยบางท่านผลิตขายกันหลายจ้าว นี่แหละครับปืนอัดลมขนานแท้ที่บรรดามืออาชีพชอบซื้อมาศึกษาหรือเล่นกัน ราคาแน่นอนก็แพงกว่าแบบที่1 มากอยู่ ราคาก็มีหมื่นปลายถึงหลักแสนบาท บางค่ายนำไปจดทะเบียนได้ เช่น Impact FX M3 (ภาพตัวอย่างนี้ด้านบน) ราคา 7 หมื่นขึ้นไปรวมทะเบียน
การผลิตชิ้นส่วนปืนอัดลมที่ผลิตขายเพื่อการศึกษากันทั่วโลกนั้นคือหนูลองยาของนักศึกษามืออาชีพและมือสมัครเล่น เพราะการผลิตคิดค้นทำมาขายกันนั้นมันมี 2 ลักษณะ คือ
1. การยึดกล้องเล็ง ไม่จับลำกล้องปืน (ลักษณะนี้ศูนย์ลำกล้องเพี้ยนทุกเวลา)
ส่วนมากจะเป็นปืนที่เอาลำกล้องไปเสียบไว้สั้นๆกับชุดโหลดลูก คือเสียบเข้าไปประมาณ 3-5 ซม. เวลาปลายลำกล้องไปโดนอะไรนิดหน่อย จะทำให้ลำกล้องเคลื่อนเบี่ยงเบน แค่ไมโครมิลแต่ปลายทางนั้นไปเป็นฟุต แล้วแบบนี้จะไปยิงอะไรได้ เวลาออกงานทีนึงต้องไปนั่งเล็งยิงทดสอบและปรับศูนย์กล้องทีนึง ส่วนมากปืนชนิดนี้บรรดามือสมัครเล่น หรือ มือใหม่ชอบซื้อมาเล่นกัน ราคาก็หมื่นต้นๆถึงหมื่นปลาย
ปืนชนิดนี้สำหรับผู้เล่นไทยและต่างประเทศต้องไปหาชื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิตที่ต่างคนต่างผลิต แบบไม่บูรณาการ หรือ ไม่มีมาตรฐาน เช่นจุดยึดแต่ละชิ้นที่เข้าด้วยกัน ไม่มีลิ้น ไม่มีสลัก ไม่มีมาร์ค ไม่มีเดือย เพื่อให้ชิ้นส่วนมันแน่นเป็นชิ้นเดียวกัน เช่นจุดยึดเร็คกุเลเตอร์ปรับลมที่สวมเข้าชุดโหลด บางค่ายยึดสกรูแค่ 2 ตัว บางค่าย4ตัว (อันนี้แน่นหน่อย ไม่คลอน) ประมาณว่าขาดประสบการณ์ บางค่ายขนาดค่ายเดียวกันยังทำมาแบบมักง่ายเลย
2. การยึดกล้องเล็ง แบบจับลำกล้อง (ลักษณะนี้ศูนย์ลำกล้องจะเสถียรมาก)
ส่วนมากถ้าเป็นปืนที่ผลิตในต่างประเทศก็คือ Impact FX M3 (ตามภาพแนบนี้เลย) หรือเป็นปืนที่ผลิตในไทยที่จุดยึดกล้องเล็งจับลำกล้องปืน หรือ ลำกล้องปืนสอดผ่านยาวเลยไปด้านหลัง มันเสถียรเพราะไม่ว่าลำกล้องจะโดนกระแทกเบี่ยงเบนไปทางไหน กล้องเล็งมันจะไปด้วยกัน การเซ็ตศูนย์กล้องครั้งนึงเล่นกันไปยาวๆ จนแทบลืม คนไทยบางท่านผลิตขายกันหลายจ้าว นี่แหละครับปืนอัดลมขนานแท้ที่บรรดามืออาชีพชอบซื้อมาศึกษาหรือเล่นกัน ราคาแน่นอนก็แพงกว่าแบบที่1 มากอยู่ ราคาก็มีหมื่นปลายถึงหลักแสนบาท บางค่ายนำไปจดทะเบียนได้ เช่น Impact FX M3 (ภาพตัวอย่างนี้ด้านบน) ราคา 7 หมื่นขึ้นไปรวมทะเบียน