ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวญาติพี่น้องของน้องจเร ภู่ทองด้วยครับ
สันติ ดวงสว่าง หรือจเร ภู่ทอง เป็นคนบ้านเดียวกับผม คือหมู่บ้านท่าคล้อ ต.ท่าเยี่ยม อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร สมัยเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านวังอ้อ ที่เป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน จเรเรียนชั้นเดียวกับน้องชายผม ซึ่งผมเองก็เรียนชั้นเดียวกับพี่สาวเค้าคือคุณอาภรณ์ ภู่ทอง หลังจากจบประถม 6 ในต้นปี 2521 ต่างคนต่างก็ไปตามแนวทางของตนเอง เช่น ศึกษาต่อ หางานทำ และพวกเราก็ห่างกันไปไม่เจอกันอีกเลย จนมาทราบข่าวนี่แหละ
แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งกันในความเป็นคนบ้านเดียวกัน ก็ได้ติดตามผลงานเค้ามาตลอด
สมัยแรกๆ ประมาณปี 2517 เรื่อยมาก่อนการเข้าสู่วงการ เค้าไปประกวดร้องเพลงเยอะมาก ทั้งพิโลก(พิจิตร, พิษณุโลก ฯลฯ) สมัยนั้นเวลาเค้าไปประกวด พวกเราก็จะคอยฟังเค้าจากสถานีวิทยุ AM ส่วนระบบ FM ไม่ต้องถามครับ เพราะมันรับไม่ได้และมีน้อยจะมีที่พิโลกที่เดียวที่เป็นของกรมประชาสัมพันธ์
แทบทุกเวทีเค้าจะชนะหมด ไม่ชนะได้ไง ก็นายจเรแกเล่นเอากลอนแหล่ขึ้นไปประกวดหน่ะ ถ้าใครเกิดทันจะได้ยินสปอร์ตโฆษณาของห้างขายยาไทยวานิช (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ จำไม่ได้ว่าอยู่ที่พิจิตร ตะพานหิน หรือท่าฬ่อ และผมชอบจำสับสนกับห้างขายยาโสภณโอสถ ตราราชรถ ที่ผลิตยาหอมยาลมขายหน่ะ) สปอร์ตโฆษณาของห้างฯเค้าจะเป็นกลอนแหล่ครับ แล้วแหล่เล่นลูกคอหลายชั้น ใครฟังแล้วต้องหนาว... ว่างั้น นี่แหละครับ นายจเรแกดังจากตรงนี้ แล้วต่อยอดร้องเพลงอื่นในการประกวดด้วย เลยดังครับ ถ้าเค้าไปประกวดที่ไหน เวทีนั้นต้องมีคนไปชมและฟังเยอะมาก
เวทีพิโลกแกกวาดรางวัลมาหมด รวมถึงน้าแอ็ด เทวดาจ้าวพ่อหนังกลางแปลงจอโค้งเรด้าอันโด่งดัง แกก็เคยไปอยู่ด้วย อัดแผ่นใช้ชื่อกำธร เทวดา แล้วจากนั้นก็หายไปไหนจำไม่ได้แร๊ะ มาโผล่อีกทีเป็นสันติ ดวงสว่างจนปัจจุบัน
และแทบทุกปี จเร เค้านำกฐิน-ผ่าป่ามาทอดที่วัดท่าคล้อประจำ จะขนคาราวานวงดนตรี นักร้องสารพัดท่านมาช่วยงาน ผมเองก็ทราบข่าวแต่ไม่ได้กลับมาบ้านเพื่อร่วมงาน ยังดีใจไปกับเขาด้วยที่เขาไปมีชื่อเสียงแต่ยังไม่ลืมบ้านเกิด แอบชมในใจมาตลอด
วันฌาปนกิจถ้าผมไปได้ ก็จะไปร่วมงานครับ และด้วยบุญกุศลที่น้องทำมาในชาตินี้ขอให้ดวงวิญญาณของจเร ภู่ทองได้ไปมีความสุขในสัมปรายภพหรือสวรรค์เบื้องบนนะครับ
สันติ ดวงสว่าง หรือจเร ภู่ทอง เป็นคนบ้านเดียวกับผม คือหมู่บ้านท่าคล้อ ต.ท่าเยี่ยม อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร สมัยเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านวังอ้อ ที่เป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน จเรเรียนชั้นเดียวกับน้องชายผม ซึ่งผมเองก็เรียนชั้นเดียวกับพี่สาวเค้าคือคุณอาภรณ์ ภู่ทอง หลังจากจบประถม 6 ในต้นปี 2521 ต่างคนต่างก็ไปตามแนวทางของตนเอง เช่น ศึกษาต่อ หางานทำ และพวกเราก็ห่างกันไปไม่เจอกันอีกเลย จนมาทราบข่าวนี่แหละ
แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งกันในความเป็นคนบ้านเดียวกัน ก็ได้ติดตามผลงานเค้ามาตลอด
สมัยแรกๆ ประมาณปี 2517 เรื่อยมาก่อนการเข้าสู่วงการ เค้าไปประกวดร้องเพลงเยอะมาก ทั้งพิโลก(พิจิตร, พิษณุโลก ฯลฯ) สมัยนั้นเวลาเค้าไปประกวด พวกเราก็จะคอยฟังเค้าจากสถานีวิทยุ AM ส่วนระบบ FM ไม่ต้องถามครับ เพราะมันรับไม่ได้และมีน้อยจะมีที่พิโลกที่เดียวที่เป็นของกรมประชาสัมพันธ์
แทบทุกเวทีเค้าจะชนะหมด ไม่ชนะได้ไง ก็นายจเรแกเล่นเอากลอนแหล่ขึ้นไปประกวดหน่ะ ถ้าใครเกิดทันจะได้ยินสปอร์ตโฆษณาของห้างขายยาไทยวานิช (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ จำไม่ได้ว่าอยู่ที่พิจิตร ตะพานหิน หรือท่าฬ่อ และผมชอบจำสับสนกับห้างขายยาโสภณโอสถ ตราราชรถ ที่ผลิตยาหอมยาลมขายหน่ะ) สปอร์ตโฆษณาของห้างฯเค้าจะเป็นกลอนแหล่ครับ แล้วแหล่เล่นลูกคอหลายชั้น ใครฟังแล้วต้องหนาว... ว่างั้น นี่แหละครับ นายจเรแกดังจากตรงนี้ แล้วต่อยอดร้องเพลงอื่นในการประกวดด้วย เลยดังครับ ถ้าเค้าไปประกวดที่ไหน เวทีนั้นต้องมีคนไปชมและฟังเยอะมาก
เวทีพิโลกแกกวาดรางวัลมาหมด รวมถึงน้าแอ็ด เทวดาจ้าวพ่อหนังกลางแปลงจอโค้งเรด้าอันโด่งดัง แกก็เคยไปอยู่ด้วย อัดแผ่นใช้ชื่อกำธร เทวดา แล้วจากนั้นก็หายไปไหนจำไม่ได้แร๊ะ มาโผล่อีกทีเป็นสันติ ดวงสว่างจนปัจจุบัน
และแทบทุกปี จเร เค้านำกฐิน-ผ่าป่ามาทอดที่วัดท่าคล้อประจำ จะขนคาราวานวงดนตรี นักร้องสารพัดท่านมาช่วยงาน ผมเองก็ทราบข่าวแต่ไม่ได้กลับมาบ้านเพื่อร่วมงาน ยังดีใจไปกับเขาด้วยที่เขาไปมีชื่อเสียงแต่ยังไม่ลืมบ้านเกิด แอบชมในใจมาตลอด
วันฌาปนกิจถ้าผมไปได้ ก็จะไปร่วมงานครับ และด้วยบุญกุศลที่น้องทำมาในชาตินี้ขอให้ดวงวิญญาณของจเร ภู่ทองได้ไปมีความสุขในสัมปรายภพหรือสวรรค์เบื้องบนนะครับ