ข้ า พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า    ~    ก ลุ่ ม เ ว็ บ จี พี เ อ ส เ ที่ ย ว ไ ท ย ด อ ท ค อ ม   (กลุ่มเว็บลูกหลานชาวพิจิตร)

fillgoods.co ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ theterraceview-khaokho เว็บทรีโอแมส Welcome to JustUsers.net
วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชม ไทย-เยอรมัน สระบุรี แนชเชอรัล รีสอร์ต (Nat's Resort) พิจิตร เม็ดบัวอบกรอบ มาย ฟีเกอ มีจําหน่ายที่ supermarket & 7-Eleven ทุกสาขา (10/12/60) เว็บ justusers.net
ลิ้ ง ค์ ก า ร พ นั น ..!!     แ บ น เ น อ ร์ ก า ร พ นั น ..!!     ไ ม่ ต้ อ ง พ ย า ย า ม ติ ด ต่ อ ม า     ไ ม่ ต้ อ น รั บ ..??

....:::: ::::....         แล้งน้ำ, น้ำท่วม, ลดโลกร้อน เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวในเรื่องดังกล่าว ทางเว็บขอร่วมรณรงค์ให้พี่น้องช่วยกันปลูกป่าทั่วแผ่นดินเพื่อแก้ปัญหาระยะยาวตามพระราชดำริของพ่อ เช่น ท่านที่อยู่ต้นน้ำตามภูเขาที่ลาดชัน หรือตามท้องไร่ท้องนาหัวคันนา ปลูกเท่าที่ทำได้ ทำตอนนี้ลูกหลานเราจะได้ไม่เดือดร้อน ...             เว็บจีพีเอสเที่ยวไทยดอทคอม     "เว็บท่องเที่ยว-ถ่ายภาพ และพิกัดGPS"       ....:::: ::::....

  สังคมแห่งการแบ่งปันนี้จะไม่มีสิ่งที่เพื่อนต้องการ    เมื่อเพื่อนๆ มาแวะเยี่ยมแล้วไม่ฝากสิ่งใดไว้..!!     กลุ่มเว็บนี้..   ดำรงไว้ซึ่ง คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม จรรยาบรรณ ไม่เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ตักตวงผลประโยชน์เข้าตน..  


กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
1





ក្រមុំក្រុងថេបcoverពិសិដ្ឋតន្រ្តី ច្រៀងដោយ ណយវ៉ាន់ណេត ពិរោះណាស់/By Banleab HD
2



ក្រមុំក្រុងថេបcoverពិសិដ្ឋតន្រ្តី ច្រៀងដោយ ណយវ៉ាន់ណេត ពិរោះណាស់/By Banleab HD
3
KX-TD1232BX  กับการเข้าทำโปรแกรมจาก หัวเครื่อง และ PC

การเข้าทำโปรแกรมจากหัวเครื่อง
1. กด                  Program  *#1234   
2. หน้าจอโชว์        SYS PGM NO? ->
4


การใช้หม้อแปลงขดลวดไปลดความเสียหายจากฟ้าผ่าในงานสื่อสาร หรืองานต่างๆ



การลดความเสียหายจากฟ้าผ่าต่าง ลดการรบกวนจากความถี่สูงต่างๆ ลดปัญหาจากไฟดูดบนโต๊ะซ่อมต่างๆ
    ตามที่บอกแหละครับ ความเสียหายจากเงื่อนไขด้านบน เราสามารถแก้ปัญหาได้ โดยใช้หม้อแปลงแบบขดลวด 220 to 220 (วงจรตามภาพแนบ) โดยไปสั่งพันจากร้านต่างๆก็ได้ เพราะลองไปค้นหาหม้อแปลงที่พันสำเร็จแล้วหายากถึงไม่มีเลย เราสั่งพันลูกใหญ่ๆมาเลยครับ จะได้ใช้ไปได้หลากหลายงาน

   การทำแบบนี้เพื่อแยกขดไฟฟ้าออกจากระบบของการไฟฟ้า และ ตัดระบบสายดินออกจากระบบ

   ฉะนั้น ด้านต่อไปใช้งาน ห้ามเอาสายเส้นใดเส้นนึงต่อลงดิน หรือ ต่อลงกราวด์เด็ดขาด เพื่อที่เราจะไม่ให้ฟ้าผ่ามันรู้จักสายดิน ในเมื่อมันหาสายดินไม่เจอ สายไฟสองเส้นจะมีโวลท์หรือแรงดันเท่ากันทุกประการ วงจรอีเล็คทรอนิคส์ของเราก็ไม่เสียหาย

  การนำไปใช้งาน

1. โต๊ะซ่อม
    โต๊ะซ่อมต่างๆ หรือ ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ ซ่อมทีวี ซ่อมเครื่องเสียง ซ่อมเตาไมโครเวฟ ซ่อมอะไรต่างๆ ท่านจะไม่โดนไฟดูดแม้ท่านไม่ใส่รองเท้าเดินบนพื้นกระเบื้อง/พื้นคอนกรีต

2. งานกล้องวงจรปิด
    งานกล้องวงจรปิดเป็นอะไรที่เสียหายบ่อยมาก กับระบบที่ต่อสายไปไกลๆ ภายนอกอาคาร การรบกวนจากสิ่งต่างๆ เช่นฟ้าผ่า การรบกวนด้านความถี่ต่างๆมีผลต่อกล้องทั้งหมด ท่านเอาหม้อแปลง 220 to 220 ไปต่อกั้นไว้ มันจะลดความเสียหายมหาศาล

3. งานวิทยุสื่อสาร

    3.1 เช่น โครงข่ายวิทยุอาสากู้ภัยต่างๆ ก็ไม่ต้องมาประกาศว่า มีพายุฝนฟ้าคะนอง ขออนุญาตปิดสถานีชั่วคราว แต่ถ้าผ่าตรงๆที่เสาอากาศต้นนั้นก็ไม่มีอะไรรอดครับ เพราะท่านไม่ได้ติดตั้งถัง คาวิตี้ ที่ตัวเครื่องรับส่งด้วย การใช้หม้อแปลงลักษณะนี้แค่ลดความเสียหายระดับนึงเท่านั้น

    3.2 งานยิงสัญญาณเน็ตผ่านระบบจานต่างๆบนยอดเสาทาวเวอร์ อันนี้ลดความเสียหายได้มหาศาลจริงๆ เพราะตัวจาน หรือ ฟีด ด้านบนมันเป็นฉนวนพลาสติคกั้นระหว่างระบบกับเสาทาวเวอร์ที่เป็นโลหะได้ ส่วนอุปกรณ์ด้านล่างในตู้แร็ค ก็ใช้หม้อแปลงกั้นกลาง จบครับ จบเนียนๆ
    เพราะเอาบ้านผมเป็นตัวอย่างได้เลย คือยิงสัญญาณระบบเน็ตไปเถียงนากลางทุ่ง ติดกล้องวงจรปิดกลางทุ่ง มากว่า 4 ปีแล้ว ฟ้าฝนผ่าตูมๆ ผมไม่เคยปิดระบบบนเสาทาวเวอร์เลย แต่บ้านข้างๆทีวีพังไปหลายเครื่อง

    3.3 งานระบบโทรศัพท์สาธารณะทางไกลชนบท เสาแดง/ขาว ที่ท่านเห็นตามต่างจังหวัด 20-30ปีมาแล้ว นั่นแหละชัดเจน ใช้หม้อแปลงแบบนี้เลยทุกเสาทาวเวอร์ ไปเปิดตู้ Node ที่โคนเสาดูได้เลย ถ้าไม่มีหม้อแปลงแยกขดไปใส่ ความเสียหายจะมหาศาลครับ

    3.4 ระบบกระจายเสียงโทรทัศน์ และ สถานีวิทยุขนาดใหญ่ (ส่วนมากจะเป็นของรัฐ) เค้าจะมีถังคาวิตี้ ยี่ห้อดัง เช่น โมโตโรล่า ไปดักไว้ที่สายอากาศช่วงตอนที่สายอากาศวิ่งขึ้นไปบนเสาทาวเวอร์ ถังคาวิตี้อันนี้จะทำการปรับอิมพิแดนซ์ค่าโอห์มของสายอากาศให้อยู่ในย่านที่ต้องการ และ ลดความเสียหายจากฟ้าผ่า โปรดสังเกตุว่าขณะฝนฟ้าคะนอง ท่านจะไม่ได้ยินคนดูแลสถานีประกาศปิดระบบ แม้ฟ้ากำลังผ่าเสาส่งต้นนั้นๆ
   ในส่วนหม้อแปลงที่มาต่อกั้นแบบนี้ เค้าก็ไม่ต้องใช้ครับ เพราะระบบพวกนี้เค้าขอหม้อแปลงไฟฟ้าแยกต่างหากไปเลยจากชุมชน ในเมื่อขอหม้อแปลงแยกจากชาวบ้านไปแล้ว สายไฟฟ้าที่จ่ายให้ระบบมันใกล้หม้อแปลง ทำให้ระบบฟ้าผ่ามันแทบไม่มีผลเลย จึงไม่ต้องใช้หม้อแปลงที่ผมแนะนำได้ครับ




5
ปีชง เรื่องจริง หรือลวงโลก?

เครดิตทั้งหมดเป็นของ : https://pantip.com/topic/42452460

ขออนุญาตอ้างอิงบทความนะครับ เพราะผมคนนึงไม่มีความเชื่อเรื่อง โชค ลาง ของขลัง



อ้างถึง
พวกคุณคิดว่าอย่างไรกับศาสตร์เกี่ยวกับปีชง คุณคิดเห็นอย่างไรกรุณาคอมเม้นต์โดยอิสระได้เลยครับ

อ้างจาก:  คุณ lovekit  (11 มกราคม 2567 เวลา 09:58 น.)
ความเห็นส่วนตัว
ส่วนตัวของเรา ปีชงพึ่งจะเป็นที่รู้จักในสังคมไทยได้ประมาณ 10กว่าปีนี่เอง
สมัยก่อนไม่เคยมีคำว่าปีชงมาก่อน จนกระทั่งวัดพาณิชย์บางแห่งเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมาและรับแก้ชง เป็นแผนการตลาดที่เล็งเห็นว่าจะทำเงินได้ดี
ช่วงแรกๆคนก็ยังไม่ค่อยสนใจมากมายอะไร จนกระทั่งมีการออกทีวี หมอดูต่างๆก็ออกมากระพือเรื่องนี้ ด้วยหวังจะเกาะกระแสสร้างชื่อเสียง
จน "ปีชง" กลายเป็นที่รู้จักของผู้คนในวงกว้าง

แรกๆก็จะมีปีชงแค่ ปีละ 1 ปีนักษัตร แต่รายได้มันยังไม่มากพอ และเมื่อเห็นโอกาสทางธุรกิจ เอาเลยจ้า ชงเพิ่มขึ้นจนเรียกได้ว่า แทบจะไม่มีปีนักษัตรไหนเลยที่ไม่ชง (มีแหละแต่น้อย)

ปัจจุบัน รายได้ของวัดที่รับแก้ชง ต่อปีอยู่ที่หลักพันล้าน!!!
อ่านไม่ผิดครับ "พันล้าน"
และยังมีแผนเปิดรับแก้ปีชงออนไลน์ด้วยครับ

แก้ชงแล้วรวยขึ้น ชีวิตดีขึ้นไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆวัดที่รับทำตอนนี้ร่ำรวยไม่รู้จะรวยยังไงแล้วจ้า



เอาบทความน่าสนใจมาให้อ่านกันครับจาก Post today

"แก้ชง" มีเฉพาะประเทศไทย?
เทศกาลขึ้นปีใหม่ของทุกปี สิ่งที่คนไทยนิยมทำกันอย่างมากควบคู่ไปกับการทำบุญไหว้พระตามวัดต่างๆ คือการขนขบวนกันไป “แก้ชง” ที่วัดจีนกันอย่างคึกคักและครึกโครม แถมด้วยการซื้อเครื่องรางราคาแพงมากแพงน้อย ห้อยพกติดตัวกันตลอดปีตลอดวันกันอย่างไม่เหนื่อยหน่าย
น่าสงสัยว่า ความเชื่อในเรื่องปีชง แก้ชงที่รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนนั้นมีมายาวนานแค่ไหน ทำไมคนไทยถึงดิ้นรนขวนขวายกับการแก้ชงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง หรือจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทุ่มทุนบุญกุศลกับการนี้ การแก้ชงในประเทศไทยเริ่มต้นมีมาอย่างไร ใครที่ได้และใครที่เสีย
วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีนกล่าวว่า ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ไม่เคยได้ยินเรื่องการต้องไปแก้ชง พวกที่วันนี้อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เชื่อว่าจะไม่เคยได้ยินเช่นกัน
ตอนเด็กๆ ถ้าปีไหนชง ก็ทำกันเองในบ้านเล็กๆ น้อยๆ คุณแม่คุณยายทำให้ พอเป็นขวัญกำลังใจเด็ก แต่ปัจจุบันการแก้ชงกลายเป็นสายการผลิต เป็นโปรดักชั่นไลน์ ตอนเด็กๆ ไม่เคยดิ้นรนว่าต้องแก้ชง แต่เดี๋ยวนี้เป็นคนละเรื่อง
“ก็น่าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไทย เป็นเรื่องที่คนไทยต้องถามตัวเอง เหมือนกับภูเก็ตที่ต้องกินเจ กลายเป็นกินเจแฟชั่น กินเจเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว การแก้ชงก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้แก้ชงกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน หลายเจ้าหลายสำนัก กลายเป็นพิธีพาณิชย์ เพื่อขายของแก้ชงกันแบบผลิตไม่ทัน”
วิโรจน์ กล่าวอีกว่า การแก้ชงในทุกวันนี้กลายเป็นพิธีเพื่อหวังผล ที่ดูน่ากลัวในมุมที่ว่า คนเราห่างจากศาสนาไปทุกที เข้าข่ายน่าเคลือบแคลง น่าสงสัย ต้องตั้งคำถามถามกันเองว่า แก้ชงแล้วได้ผลหรือไม่ ได้ผลจริงหรือ ทำไมช่างมหัศจรรย์จังเลย แย่งสามีชาวบ้านเสร็จแล้วทำพิธีแก้ชง พูดปดมาตลอดทั้งปีแล้วแก้ชง แก้แล้วก็หายกันอย่างนั้นหรือ ขัดกับหลักพระพุทธศาสนามาก
“ศาสนาพุทธสอนให้เราเชื่อในกฎแห่งกรรม คือการกระทำ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กงเกวียนกำเกวียน พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้หมดแล้ว แต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ชีวิตคนมีดีแล้วก็มีชั่ว ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหนเป็นของจริง ดอกไม้ไม่แดงทั้งร้อยวัน ดอกไม้ที่แดงร้อยวันคือดอกไม้พลาสติก บางปีดีก็เสวยบุญ ปีไหนไม่ดีก็เสวยวิบากไปซิ กลัวอะไรกับชีวิต”
เรื่องแก้ชงต้องตั้งสติกันใหม่ เพราะ 1.การแก้ชงไม่ได้ให้ผลทันตา ไม่ใช่คทาวิเศษที่โบกให้ซวยไปเฮงมาได้ในบัดดล
2.ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยึดในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็เมื่อหนึ่งในหลักยึดคือศาสนา พระพุทธเจ้าก็ทรงสั่งสอนไว้แล้วในเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะฉะนั้นก็เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี พูดดี ทำดี คิดดี เชื่อมั่น ก็ไม่ต้องไปแก้ชง
นั่นเป็นการตั้งข้อสังเกตของผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมจีน แต่สำหรับผู้คลุกคลีกับศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย คฑา ชินบัญชร กูรูคนดังด้านฮวงจุ้ยว่า เรื่องการแก้ชงเป็นคติความเชื่อเก่าแก่ของจีน สืบทอดมานานกว่าพันปี รากฐานที่ยาวนานสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าไม่ดีจริงคงอยู่ไม่ได้นานขนาดนี้ โดยคนจีนถือที่สุดคือการกตัญญู การบูชาต่อผู้มีพระคุณ ได้แก่ พ่อแม่บรรพบุรุษ ท้องฟ้า แสงสว่าง พื้นดิน โลกและดวงอาทิตย์ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีพืชผล ไม่มีข้าวปลาธัญญาหารให้กิน วันแรกของฤดูใบไม้ผลิหรือวันขึ้นปีใหม่ จึงทำพิธีบูชาระลึกคุณ
เรื่องการไหว้เจ้าขอพรในวันขึ้นปีใหม่ของจีน เป็นไปตามหลักการธาตุทางธรรมชาติ 5 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ไม้ ไฟ ทอง ซึ่งหมุนเวียนไปในแต่ละปี สืบเนื่องไปถึงเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะประจำปีที่เป็นตัวแทนธาตุหลักของปีนั้นๆ 1 รอบมี 60 ปี หรือ 60 องค์ ทำให้ในแต่ละปีเกิดการพิฆาตกันระหว่างธาตุ หรือส่งเสริมกันระหว่าง 5 ธาตุดังกล่าว และเป็นต้นเหตุของปีปะทะชน หรือชง (ปีที่ไม่ดี) กับปีฮะ (ปีที่ดี) นั่นเอง
“เมื่อเกิดปีชงกับเจ้า หรือปะทะชนกับเจ้า จึงเป็นที่มาของการแก้ชง โดยไปขอพรจากไท้ส่วยเอี๊ยะ ในเมื่อท่านไม่ชอบเรา เราก็สู้อุตส่าห์มาไหว้ซูฮกท่านแล้ว ก็เรียกว่ามาขอเมตตาท่าน คนจีนเวลาไปไหว้แก้ชง เขาก็แห่กันไปไหว้นะ อย่างวัดหวังต้าเซียน และวัดแชกง ในฮ่องกง จริงๆ เขาก็ไหว้แก้ชงกันทั้งโลกที่มีคนจีนอาศัยอยู่”
การไหว้พระขอพรหรือการแก้ชง ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นเรื่องเตือนสติคนไหว้ เพราะต้องไปไหว้ที่วัด ก็ต้องไหว้ทั้งเจ้าทั้งพระ ทำให้ได้ระลึกคุณพระพุทธองค์ ได้ระลึกถึงพระธรรมคำสอนของท่าน ไปที่วัดต้องเจอพระเจอนักบวช ก็ได้ไหว้พระ ได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ถือเป็นสิริมงคลตั้งแต่ต้นปี ทำให้มีจิตที่ตื่นรู้เบิกบาน แม้มีปีปะทะชง ก็มีสติตั้งรับ มีสติรู้ระวังตัว
“ปีไหนปีชง ก็เข้าวัดเพื่อเตือนสติตัวเอง เรื่องแก้ชงนี้คนจีนไม่ได้ทำด้วยความเป็นกระแส แต่ทำด้วยความเชื่อถือในหลักธรรมชาติ คนเรามีเกิดมีดับมีดีมีเลวเป็นไป แต่เรื่องของจิตต้องตื่นรู้ ใช้โอกาสในปีชง ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท”
คฑาบอกว่า เมื่อเรื่องแก้ชงนี้มาอยู่กับคนไทย ก็น่ากลัวเหมือนกัน อยากเตือนให้ทำด้วยสติ การสักการะโดยไม่งมงายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะการแก้ชงนั้น แท้จริงแล้วก็คือการเรียกสติสัมปชัญญะ ตั้งตนอยู่ในความรู้ตัวทั่วพร้อม การแก้ชงก็ควรเป็นไปด้วยหลักการคิดเดียวกัน
“การที่ทางวัดจำหน่ายของแก้ชง หรือหมอดูขายของแก้ชง อันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถของผู้ซื้อ ถ้าแพงเกินไป ก็อย่าซื้อ แค่นี้ก็จบ เรื่องแก้ชงในเมืองไทยกลายเป็นกระแสอย่างขาดสติ ก็เพราะคนขาดสติยั้งคิดในการไหว้ คือคนที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ได้แต่คือเสีย จริงๆ แล้วแค่ยกมือไหว้องค์ไท้ส่วยเอี๊ยะ เพียงเท่านี้ก็เป็นมงคลแก่ตัว คุ้มตัวได้ตลอดปีเช่นกัน”
คฑาสรุปในตอนท้ายให้ขบคิดว่า เรื่องไหว้เจ้าแก้ชงที่เป็นกระแสก็เป็นกระแสจริงๆ แต่ที่เขาไหว้กันอย่างมีความรู้มีสติมีหลักการก็มีจริงๆ ก็ต้องถามคนไทยว่าจะไหว้อย่างไหน เรื่องกระแสแก้ชงเกิดขึ้นในไทยเมื่อสัก 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง เริ่มเมื่อในสังคมของเรามีหมอดูที่ค้าขายของ มีซินแสที่คิดเรื่องธุรกิจ คนบางคนหัวหมอ ก็นำเรื่องความเชื่อมาหาเงินทอง ประกอบกับโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้เรื่องพวกนี้ไปเร็ว ขยายเร็ว


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องของคนโง่งมงาย ทุกชีวิตมีดีมีร้าย มีขึ้นมีลง ไม่เกิ่ยวกับชงบ้าชงบออะไร


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 6
โหราศาสตร์ เป็นเรื่องจริงที่สากลหลายๆชาติให้ศึกษาและดำเนินตาม แต่มันก็มีรายละเอียดยิบย่อยและแตกแขนงกันไป

ปีชง จะเป็นเรื่องงมงายหรือจริงจังแค่ไหน ก็ขึ้นกับคนเชื่อครับ ส่วนตัวผมก็คือ "เฉยๆ" ไม่ได้ตัดสินว่ามีหรือไม่มีจริง งงไหม เรียกว่าไม่ใส่ใจก็ยังได้นั่นหละ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 8
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ เชื่อว่าสิ่งมีชีวิต พืช สัตว์ มนุษย์ เกิดมาแค่เป็นส่วนนึงในโลก และ โลกก็ส่วนนึงในดาราจักร และ จักรวาล
เลยต้องไม่มีความสัมพันธ์กัน ออกนอกโลกไปก็ไม่มีทิศทาง ไม่มีเวลาอายุ  เวลากับทิศทาง คือ สิ่งที่สมมุติแค่ในโลกเพื่อให้มนุษย์สื่อสารกันเข้าใจ

  ความงมงายเป็นเรื่องของมนุษย์ ใช้อ้างหาผลประโยชน์(ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม) กับมนุษย์ด้วยกัน หากไม่มีผลประโยชน์ก็จะไม่เกิดความงมงาย


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 9
มนุษย์ก็ชอบสร้างอะไรแบบนั้น หาที่พึ่งทางใจ

แรกๆ ก็เคยคิดว่าใครจะเชื่อก็เชื่อไป ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
แต่หลังๆ พออยู่เป็นกลาง ก็เหมือนสนับสนุนพวกหากินกับคนมีทุกข์มากกว่า


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 11
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องนี้ค่ะ พวกธุรกิจปีชง รับแก้ชง ไม่เคยได้เงินเราเลย อยู่มา 40 ปี ชีวิตก็ปกติดี เพราะใช้ชีวิตแบบไม่ประมาทค่ะ ไม่ไปในสถานที่อโคจร ไม่สร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 12
ถ้าจริง เราเป็นมหาอำนาจโลกไปแล้วครับ
ฝรั่งมังค่า ไม่รู้จักอะไรแบบนี้หรอกครับ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 13
มันคือตัวเลขทางสถิติ หลายร้อยหลายพันปี

ศาสตร์จีนเขาเอามาทำเป็นตำรา

ชง มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ได้แปลว่าซวย คนเข้าใจผิดกันเยอะ

วงจรเศรษฐกิจยังเป็นทุก 7-10 ปีเลย ชีวิตคนก็ไม่ต่างกัน


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 17
บ่งบอกว่า สังคมป่วย จิตใจคนอ่อนแอ ต้องการหาที่ยึดเหนี่ยว สมัยก่อนถ้าลัทธิบูชาเทพเจ้า บูชาผี เจริญรุ่งเรือง ก็แสดงว่าบ้านนั้น เมืองนั้นใกล้ล่มสลายแล้ว


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 18
งมงาย


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 20
ตอนเรื่องปีชงออกมาใหม่ๆ แต่ละปีก็จะมีปีเกิดที่เป็นปีชงตรงๆแค่ปีเดียว

พอคนเริ่มเชื่อมาก ก็เริ่มซอยถึ่เป็นปีเกิดที่ชงมากชงน้อย ชงหมู่ กวาดกันหลายๆปีนักกษัตรในปีเดียว
กลายเป็นปีชงแทบทุกปี

ไม่ต่างกับหมอดูค่ายหนังสือพิมพ์ค่ายสีเขียวคนนึง
ทายว่า ทุกปีเป็นปีร้ายของบ้านเมือง ไฟไหม้ แผ่นดินไหว น้ำท่วม คนดังตาย
คำทำนาย copy เหมือนเดิมมาหลายสิบปีแล้ว


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 24
ชงมันเกือบทุกปีนักษัตร มีแค่ไม่กี่ปีที่ไม่ชง แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ การตลาดเกิน


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 27
ไม่เชื่อค่ะ ชงมันเกือบทุกปีเลย 25% บ้าง 50% บ้าน 75% บ้าง 100% บ้าง 55555 เป็นเรื่องการค้าชัดๆ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 29
ผมคนนึงไม่เคยเชื่อ ปีนักษัตรนึงคนกี่ล้าน ในล้านคนมันต้องมีดีบ้างมีไม่ดีบ้าง ถ้ามันแม่นจริง ในปีนักษัตรนั้นต้องเหมือนกันหมดทุกคนสิ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 30
เรื่องของความเชื่อ คนเชื่อก็เชื่อ คนไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ ผมอยู่ในส่วนของไม่ค่อยเชื่อ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 32
เราเชื่อ เรื่องลัคนา ราศี
แต่เรื่องปีชงนี่เราไม่เชื่ออ่ะ😅


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 35
คือมันลวงโลกมานานนนนนน มากกกกก แล้วค่ะ
ทำไมเพิ่งรู้ตัวกัน?


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 45
เชื่อมาตลอดตั้งแต่ได้ยินคำว่าปีชงครั้งแรก

เชื่อว่ามันมีเพื่อแก้ชง เพื่อหารายได้ล้วนๆเลย

มีแก้ชงแบบไม่เสียเงินไหม แบบนั่งสมาธิเฉยๆ ก็แก้ชงได้อ่ะ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 49
เคยเชื่อ และต้องไปแก้ชงถึง พุทธสถานที่นึง ตามที่หมอลักษณ์แนะนำไป
แต่พอไปแล้ว การไหว้ แต่ละ จุด ต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น จากชุดของไหว้อีก เพื่อให้ครบพิธี
ไปๆ มาๆ หมดไป พันกว่าบาท เลย

และมองเป้นเชิงพาณิชย์ มากไป


รู้สึกว่า ถ้าจะให้ สบายใจ เอาเงิน ไปทำบุญถวายโรงศพ ดีกว่า
( รวมทั้งหมอ ด้วย ที่เน้นขายสีผึ้ง ทาปาก )


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 52
การตลาด

การเงิน

ของมันขายได้

เพราะ มีคนซื้อ

จะให้ คน ซื้อ คือ ต้องทำให้เชื่อก่อน

มันก็วนไปหา การตลาด ที่ ทำให้เชื่อ ถือ ก่อน เป็นอันดับแรก

พระ ที่ผม นับถือ สอนแต่ การถือ ศีลห้า กับ รู้จักตอบแทน ผู้ มี พระคุณ กับเรา ตามสมควร
พอแล้ว ครับ


ไม่ต้องดิ้นรนให้มากความ เหนื่อยปล่าวครับ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 53
สมัยก่อนอยู่มา 30 ปี ไม่รู้จักปีชงเลย
พอรู้จักคนเชื่อเรื่องปีชงเท่านั้นแหละ
พอเราโชคไม่ดีหรือซวยเรื่องอะไร ก็จะกรอกหูว่าเนี่ยเพราะปีชงแหละซ้ำๆ ๆ ๆ

ต้องใส่สีนี้ๆ แก้เคล็ด  ต้องเลิกกินเนื้อสัตว์ บลาๆๆ ( จริงๆ ไม่ใช่คนนี้คนเดียวนะ ญาติเราก็มีเชื่อแบบนี้ แต่พื้นเพครอบครัวเราไม่ใช่คนจีน ไม่ได้เชื่อเรื่องนี้เลย แต่ญาติคนนี้เขาเป็นคนที่เชื่อทุกอย่างตามกระแสไปซะหมด เชื่อจัด พาเราไปไหว้ ไปทำนั่นนู่นนี่ ) จนเราเกือบจะเชื่อไปอยู่แล้ว
พอผ่านข้ามปีมา ก็ยังมีบางครั้งที่ซวยอยู่  เลยถามนางว่า ปีนี้ยังจะชงอีกเหรอ
นางหยุดคิดไปพักนึงแล้วบอกว่า เออ น่าจะชงข้างเคียงมั้ง ต้องไปแก้อีก
เราแอบคิดในใจ มีงี้อีก มันใช่เหรอวะ
ผ่านไป 12 ปี ปีชงวนย้อนกลับมาอีกรอบ
แต่ระหว่าง 12 ปีนั้น เราก็มีเรื่องดี เรื่องซวยผลัดเปลี่ยนเวียนมาเรื่อยๆ นี่ จนเริ่มคิดได้
ตั้งแต่นั้น จะปีชงยังไง ใครจะไหว้อะไรยังไงแล้วแต่เลย เราไม่สนใจดู ไม่สนใจฟังอีกเลย  อยากไหว้อะไร ทำอะไร แล้วแต่ตัวเราเอง

เราคิดว่า คนเราควรได้รับการถูกสอนตั้งแต่เล็กๆ ว่า  คนเรามีโชคดี-มีโชคร้าย, มีทุกข์-มีสุข, มีสมหวัง-มีผิดหวัง ปะปนระคนกันไป เป็นธรรมดามนุษย์
ไม่มีใครที่โชคดีอย่างเดียวไปตลอดชีวิต และก็คงไม่มีใครโชคร้ายตลอดไปทุกเรื่อง  เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป
หากผิดพลาดอะไรตรงไหนก็ควรใช้ความเป็นเหตุเป็นผลมาแก้ไข แล้วมันจะกลายเป็นประสบการณ์ให้เราไม่พลาดอีก
ถ้าเราไม่พิจารณาความเป็นเหตุเป็นผลใดๆ อะไรเลย  เอาแต่ไหว้ปะลกๆ เทพเจ้าอะไรก็อาจไม่ช่วยเลย


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 60
ไม่เคยสนใจเรื่องปีชง
อาจจะเพราะผมศึกษาทางพุทธมาเยอะ
แล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่พอถึงปีนี้ คนเกิดปีนี้จะแย่มันทุกคน

ผมเคยพิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นมาแล้วว่าปีชงทำอะไรไม่ได้
หลายปีก่อน เขาบอกกันว่าปีเกิดของผม ชง 100%
ทั้งเจ้านายและลูกน้อง ชวนผมไปแก้ชงสารพัด แต่ผมไม่ไปสักที่
และปีนั้นผลงานผมก็ดีมากๆ การงานราบรื่น ชีวิตดีมีสุข
จนคนรอบข้างมองว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ผมจะบอกว่าไม่แปลก


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 65
เขาจะขายของมันก็คือธุรกิจประเภทหนึ่งเหมาะสำหรับคนเชื่อจะเรียกว่างมงายก็ประมาณนึง


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 68
แค่เห็นวิธีทางแก้ชง ก็รู้แล้วว่าไร้สาระ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 72
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่อจำนวนมากๆ ทำให้เกิดเป็นธุรกิจ เป็นช่องทางให้คนเอาไปหากิน
เช่น เส้นทางท่องเที่ยว ทำเครื่องรางสำหรับสายมู

ส่วนตัวไม่เคยเชื่อค่ะ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 74
ผมไม่เคยเห็น ปธน สหรัฐ ไปแก้ปีชงสักคน
ก็เห็นแต่ละคนก็ยิ่งใหญ่คับฟ้า


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 76
มันคือการตลาดของหมอดู อย่างฮวงจุ้ยก็มีเพิ่มยุคนั่นยุคนี่ คนที่เชื่อก็ต้องคอยเปลี่ยนเรื่อยๆ
จากเมื่อก่อนแก้ครั้งเดียวกลายเป็นต้องแก้หลายครั้งตามยุค เสียเงินเรื่อยๆซินแสก็รวยขึ้นเรื่อยๆ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 80
เรื่องปัญญาอ่อน หากิน กับความงมงาย หลังๆเพี้ยนไปไกลถึง ชง 25 %   555


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 86
เรื่องลวงโลก เป็นการหาผลประโยชนฺ์ของหมอดูกับวัดศาลเจ้า


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 87
ปีชง จริงไม่จริงไม่รู้
แต่พูดกันแบบนี้
เท่ากับไปขัดผลประโยชน์
กับพวกที่หากินกับสิ่งเหล่านี้แน่นอน
คนพูดคงต้องระมัดระวังตัวไว้บ้างค่ะ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 92
พวกที่เชื่อปีชง ก็คือพวกไม่อยากยอมรับความสูญเสียใดๆ ไม่เชื่อในความอนิจจัง (ตรงข้ามกับหลักพระธรรมชัดๆ ยังมีคนแถว่าเป็นกุศโลบายให้คนทำเข้าวัด ทำดีเฉย) ไม่คำนวณความเสี่ยง จะเอาดีลูกเดียว หารู้ไม่ เกิดเป็นคน กว่าชีวิตจะหาไม่ มันก็ต้องเจออุปสรรค ปัญหา ความทุกข์ ความสูญเสีย แค่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท จากหนักก็จะเบา ไม่เห็นต้องไปจ่ายเงินให้หมอดู


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 93
ถ้าคุณเชื่อมันจะเป็นเรื่องจริงครับ

แต่ผมไม่เชื่อนะ ปีนี้ชงหรือไม่ชงมันก็มีดีมีซวยพอๆ กัน ไม่เห็นต่างกันเท่าไร


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 96
เอาตามตรง​ผมไปหลายประเทศมา เจอผู้คนมากมาย​ประเทศไม่เคยเห็นเขาเหล่านั้นบูชาอะไรมากมายเท่าคนไทย​ ​ใครว่าอะไรว่าตาม​คนไทยส่วนมากนับถือพุทธศาสนา​แต่​ ไหว้สักการะเทพเจ้าศาสนาฮินดูมีมากมาย​ ไหว้เจ้าแม่​ เจ้าพ่อต่างๆ​ แถมมีคำกำกับแบบห้ามแย้ง​ คือไม่เชื่ออย่าลบหลู่​ ประเทศอื่นๆ​ไม่มีไม้มงคลครับ​ บ้านเรา​มีไม้มงคล​ ปลูกแล้วจะร่ำรวยมีมงคล​ ซึ่งมันคือการตลาดล้วนๆ​ แต่ไม่มีคนแย้ง​  ส่วนวัดไทยพุทธ​ น้อยวัดที่จะไม่เป็นพุทธพาณิชย์​ เจ้าอาวาส​ นอนห้องแอร์​ มีรถประจำตำแหน่ง​ ทั้งที่ศาสนาพุทธเอง​ ไม่ได้มีบทบรรญัติ​ และอาจมีคนแย้งต้องทันโลก

      ครานี้มามี้รื่องฮวงจุ้ย​ ทำอย่างนี้ฮวงจุ้ย​ไม่ดี​ ทั้งที่คำๆนี้มาจากจีน​คนไทยคว้ามาใช้เลย​เอาทำตามเขา​  ครานี้มาเรื่องปีชงผมเพิ่งได้ยิน​ไม่นานนี้เอง​เขาว่าปีชง​เอาชงกันด้วยกัน​ไม่มีใครแย้ง​เฮ... ทำตามพูดตาม​
       สำหรับผม​ นับถือ​ พุทธ​ ไม่มีเทวรูปศาสนาอื่นๆในบ้านครับ​ มีพระพุทธรูป​ บนหิ้งกราบไหว้บูชา​ตามพ่อแม่พาทำ​และ​ไปวัดทำบุญ​วัดยากจน​ ผมจะไม่เข้าวัด ร่ำรวย​เจอเจ้าอาวาสต้องนัดวัน​ไม่ไปครับ​ของถวายวัดจะสอบถามเจ้าอาวาสขาดเหลืออะไร​ผมจะถวาย​ ตามที่ท่านบอกมา เรื่องฤกษ์ยาม​ ไม่มีครับ​ทำอะไรทำเลย​  ไม่เคยเอาพระมาเจิมรถ​ ไม่เคยดูฤกษ์ยามไปออกรถ​ รถมีหลายคันไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ​ และไม่เคยเอาพระไว้บนรถ​เกรง​เวลาเลี้ยวพระกระเด็นกระดอนครับ

       ถามว่าแล้วเชื่อไหม​ ฮวงจุ้ย​ปีชง​ ฤกษ์​ ยาม​ หมอดู​ ไม่เชื่อครับ​ชีวิต​ลิขิตเองครับ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 98
ตั้งแต่เกิดมา...ไม่เคยแก้ชงอะไรเลย มีดีมีร้ายสับเปลื่ยนกันมาตลอด มันคือชีวิตที่มีขึ้นๆลงๆ ตามกรรมที่สร้างมา จะทำก็แค่...ทำทาน ใส่บาตร
ยิ่งมารู้ว่าสมัยนี้มีชง 50% 40% 30% 20% มีชงร่วมโผล่ออกมาอีกต่างหาก ถึงกับอะไรว้าเลย







ลิ้งค์
www.gpsteawthai.com/index.php/topic,7730
www.gpsteawthai.com/index.php/topic,7731

 
6
ปีชง เรื่องจริง หรือลวงโลก?

เครดิตทั้งหมดเป็นของ : https://pantip.com/topic/42452460

ขออนุญาตอ้างอิงบทความนะครับ เพราะผมคนนึงไม่มีความเชื่อเรื่อง โชค ลาง ของขลัง



อ้างถึง
พวกคุณคิดว่าอย่างไรกับศาสตร์เกี่ยวกับปีชง คุณคิดเห็นอย่างไรกรุณาคอมเม้นต์โดยอิสระได้เลยครับ

อ้างจาก:  คุณ lovekit  (11 มกราคม 2567 เวลา 09:58 น.)
ความเห็นส่วนตัว
ส่วนตัวของเรา ปีชงพึ่งจะเป็นที่รู้จักในสังคมไทยได้ประมาณ 10กว่าปีนี่เอง
สมัยก่อนไม่เคยมีคำว่าปีชงมาก่อน จนกระทั่งวัดพาณิชย์บางแห่งเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมาและรับแก้ชง เป็นแผนการตลาดที่เล็งเห็นว่าจะทำเงินได้ดี
ช่วงแรกๆคนก็ยังไม่ค่อยสนใจมากมายอะไร จนกระทั่งมีการออกทีวี หมอดูต่างๆก็ออกมากระพือเรื่องนี้ ด้วยหวังจะเกาะกระแสสร้างชื่อเสียง
จน "ปีชง" กลายเป็นที่รู้จักของผู้คนในวงกว้าง

แรกๆก็จะมีปีชงแค่ ปีละ 1 ปีนักษัตร แต่รายได้มันยังไม่มากพอ และเมื่อเห็นโอกาสทางธุรกิจ เอาเลยจ้า ชงเพิ่มขึ้นจนเรียกได้ว่า แทบจะไม่มีปีนักษัตรไหนเลยที่ไม่ชง (มีแหละแต่น้อย)

ปัจจุบัน รายได้ของวัดที่รับแก้ชง ต่อปีอยู่ที่หลักพันล้าน!!!
อ่านไม่ผิดครับ "พันล้าน"
และยังมีแผนเปิดรับแก้ปีชงออนไลน์ด้วยครับ

แก้ชงแล้วรวยขึ้น ชีวิตดีขึ้นไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆวัดที่รับทำตอนนี้ร่ำรวยไม่รู้จะรวยยังไงแล้วจ้า



เอาบทความน่าสนใจมาให้อ่านกันครับจาก Post today

"แก้ชง" มีเฉพาะประเทศไทย?
เทศกาลขึ้นปีใหม่ของทุกปี สิ่งที่คนไทยนิยมทำกันอย่างมากควบคู่ไปกับการทำบุญไหว้พระตามวัดต่างๆ คือการขนขบวนกันไป “แก้ชง” ที่วัดจีนกันอย่างคึกคักและครึกโครม แถมด้วยการซื้อเครื่องรางราคาแพงมากแพงน้อย ห้อยพกติดตัวกันตลอดปีตลอดวันกันอย่างไม่เหนื่อยหน่าย
น่าสงสัยว่า ความเชื่อในเรื่องปีชง แก้ชงที่รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนนั้นมีมายาวนานแค่ไหน ทำไมคนไทยถึงดิ้นรนขวนขวายกับการแก้ชงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง หรือจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทุ่มทุนบุญกุศลกับการนี้ การแก้ชงในประเทศไทยเริ่มต้นมีมาอย่างไร ใครที่ได้และใครที่เสีย
วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีนกล่าวว่า ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ไม่เคยได้ยินเรื่องการต้องไปแก้ชง พวกที่วันนี้อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เชื่อว่าจะไม่เคยได้ยินเช่นกัน
ตอนเด็กๆ ถ้าปีไหนชง ก็ทำกันเองในบ้านเล็กๆ น้อยๆ คุณแม่คุณยายทำให้ พอเป็นขวัญกำลังใจเด็ก แต่ปัจจุบันการแก้ชงกลายเป็นสายการผลิต เป็นโปรดักชั่นไลน์ ตอนเด็กๆ ไม่เคยดิ้นรนว่าต้องแก้ชง แต่เดี๋ยวนี้เป็นคนละเรื่อง
“ก็น่าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไทย เป็นเรื่องที่คนไทยต้องถามตัวเอง เหมือนกับภูเก็ตที่ต้องกินเจ กลายเป็นกินเจแฟชั่น กินเจเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว การแก้ชงก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้แก้ชงกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน หลายเจ้าหลายสำนัก กลายเป็นพิธีพาณิชย์ เพื่อขายของแก้ชงกันแบบผลิตไม่ทัน”
วิโรจน์ กล่าวอีกว่า การแก้ชงในทุกวันนี้กลายเป็นพิธีเพื่อหวังผล ที่ดูน่ากลัวในมุมที่ว่า คนเราห่างจากศาสนาไปทุกที เข้าข่ายน่าเคลือบแคลง น่าสงสัย ต้องตั้งคำถามถามกันเองว่า แก้ชงแล้วได้ผลหรือไม่ ได้ผลจริงหรือ ทำไมช่างมหัศจรรย์จังเลย แย่งสามีชาวบ้านเสร็จแล้วทำพิธีแก้ชง พูดปดมาตลอดทั้งปีแล้วแก้ชง แก้แล้วก็หายกันอย่างนั้นหรือ ขัดกับหลักพระพุทธศาสนามาก
“ศาสนาพุทธสอนให้เราเชื่อในกฎแห่งกรรม คือการกระทำ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กงเกวียนกำเกวียน พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้หมดแล้ว แต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ชีวิตคนมีดีแล้วก็มีชั่ว ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหนเป็นของจริง ดอกไม้ไม่แดงทั้งร้อยวัน ดอกไม้ที่แดงร้อยวันคือดอกไม้พลาสติก บางปีดีก็เสวยบุญ ปีไหนไม่ดีก็เสวยวิบากไปซิ กลัวอะไรกับชีวิต”
เรื่องแก้ชงต้องตั้งสติกันใหม่ เพราะ 1.การแก้ชงไม่ได้ให้ผลทันตา ไม่ใช่คทาวิเศษที่โบกให้ซวยไปเฮงมาได้ในบัดดล
2.ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยึดในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็เมื่อหนึ่งในหลักยึดคือศาสนา พระพุทธเจ้าก็ทรงสั่งสอนไว้แล้วในเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะฉะนั้นก็เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี พูดดี ทำดี คิดดี เชื่อมั่น ก็ไม่ต้องไปแก้ชง
นั่นเป็นการตั้งข้อสังเกตของผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมจีน แต่สำหรับผู้คลุกคลีกับศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย คฑา ชินบัญชร กูรูคนดังด้านฮวงจุ้ยว่า เรื่องการแก้ชงเป็นคติความเชื่อเก่าแก่ของจีน สืบทอดมานานกว่าพันปี รากฐานที่ยาวนานสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าไม่ดีจริงคงอยู่ไม่ได้นานขนาดนี้ โดยคนจีนถือที่สุดคือการกตัญญู การบูชาต่อผู้มีพระคุณ ได้แก่ พ่อแม่บรรพบุรุษ ท้องฟ้า แสงสว่าง พื้นดิน โลกและดวงอาทิตย์ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีพืชผล ไม่มีข้าวปลาธัญญาหารให้กิน วันแรกของฤดูใบไม้ผลิหรือวันขึ้นปีใหม่ จึงทำพิธีบูชาระลึกคุณ
เรื่องการไหว้เจ้าขอพรในวันขึ้นปีใหม่ของจีน เป็นไปตามหลักการธาตุทางธรรมชาติ 5 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ไม้ ไฟ ทอง ซึ่งหมุนเวียนไปในแต่ละปี สืบเนื่องไปถึงเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะประจำปีที่เป็นตัวแทนธาตุหลักของปีนั้นๆ 1 รอบมี 60 ปี หรือ 60 องค์ ทำให้ในแต่ละปีเกิดการพิฆาตกันระหว่างธาตุ หรือส่งเสริมกันระหว่าง 5 ธาตุดังกล่าว และเป็นต้นเหตุของปีปะทะชน หรือชง (ปีที่ไม่ดี) กับปีฮะ (ปีที่ดี) นั่นเอง
“เมื่อเกิดปีชงกับเจ้า หรือปะทะชนกับเจ้า จึงเป็นที่มาของการแก้ชง โดยไปขอพรจากไท้ส่วยเอี๊ยะ ในเมื่อท่านไม่ชอบเรา เราก็สู้อุตส่าห์มาไหว้ซูฮกท่านแล้ว ก็เรียกว่ามาขอเมตตาท่าน คนจีนเวลาไปไหว้แก้ชง เขาก็แห่กันไปไหว้นะ อย่างวัดหวังต้าเซียน และวัดแชกง ในฮ่องกง จริงๆ เขาก็ไหว้แก้ชงกันทั้งโลกที่มีคนจีนอาศัยอยู่”
การไหว้พระขอพรหรือการแก้ชง ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นเรื่องเตือนสติคนไหว้ เพราะต้องไปไหว้ที่วัด ก็ต้องไหว้ทั้งเจ้าทั้งพระ ทำให้ได้ระลึกคุณพระพุทธองค์ ได้ระลึกถึงพระธรรมคำสอนของท่าน ไปที่วัดต้องเจอพระเจอนักบวช ก็ได้ไหว้พระ ได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ถือเป็นสิริมงคลตั้งแต่ต้นปี ทำให้มีจิตที่ตื่นรู้เบิกบาน แม้มีปีปะทะชง ก็มีสติตั้งรับ มีสติรู้ระวังตัว
“ปีไหนปีชง ก็เข้าวัดเพื่อเตือนสติตัวเอง เรื่องแก้ชงนี้คนจีนไม่ได้ทำด้วยความเป็นกระแส แต่ทำด้วยความเชื่อถือในหลักธรรมชาติ คนเรามีเกิดมีดับมีดีมีเลวเป็นไป แต่เรื่องของจิตต้องตื่นรู้ ใช้โอกาสในปีชง ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท”
คฑาบอกว่า เมื่อเรื่องแก้ชงนี้มาอยู่กับคนไทย ก็น่ากลัวเหมือนกัน อยากเตือนให้ทำด้วยสติ การสักการะโดยไม่งมงายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะการแก้ชงนั้น แท้จริงแล้วก็คือการเรียกสติสัมปชัญญะ ตั้งตนอยู่ในความรู้ตัวทั่วพร้อม การแก้ชงก็ควรเป็นไปด้วยหลักการคิดเดียวกัน
“การที่ทางวัดจำหน่ายของแก้ชง หรือหมอดูขายของแก้ชง อันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถของผู้ซื้อ ถ้าแพงเกินไป ก็อย่าซื้อ แค่นี้ก็จบ เรื่องแก้ชงในเมืองไทยกลายเป็นกระแสอย่างขาดสติ ก็เพราะคนขาดสติยั้งคิดในการไหว้ คือคนที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ได้แต่คือเสีย จริงๆ แล้วแค่ยกมือไหว้องค์ไท้ส่วยเอี๊ยะ เพียงเท่านี้ก็เป็นมงคลแก่ตัว คุ้มตัวได้ตลอดปีเช่นกัน”
คฑาสรุปในตอนท้ายให้ขบคิดว่า เรื่องไหว้เจ้าแก้ชงที่เป็นกระแสก็เป็นกระแสจริงๆ แต่ที่เขาไหว้กันอย่างมีความรู้มีสติมีหลักการก็มีจริงๆ ก็ต้องถามคนไทยว่าจะไหว้อย่างไหน เรื่องกระแสแก้ชงเกิดขึ้นในไทยเมื่อสัก 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง เริ่มเมื่อในสังคมของเรามีหมอดูที่ค้าขายของ มีซินแสที่คิดเรื่องธุรกิจ คนบางคนหัวหมอ ก็นำเรื่องความเชื่อมาหาเงินทอง ประกอบกับโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้เรื่องพวกนี้ไปเร็ว ขยายเร็ว


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องของคนโง่งมงาย ทุกชีวิตมีดีมีร้าย มีขึ้นมีลง ไม่เกิ่ยวกับชงบ้าชงบออะไร


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 6
โหราศาสตร์ เป็นเรื่องจริงที่สากลหลายๆชาติให้ศึกษาและดำเนินตาม แต่มันก็มีรายละเอียดยิบย่อยและแตกแขนงกันไป

ปีชง จะเป็นเรื่องงมงายหรือจริงจังแค่ไหน ก็ขึ้นกับคนเชื่อครับ ส่วนตัวผมก็คือ "เฉยๆ" ไม่ได้ตัดสินว่ามีหรือไม่มีจริง งงไหม เรียกว่าไม่ใส่ใจก็ยังได้นั่นหละ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 8
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ เชื่อว่าสิ่งมีชีวิต พืช สัตว์ มนุษย์ เกิดมาแค่เป็นส่วนนึงในโลก และ โลกก็ส่วนนึงในดาราจักร และ จักรวาล
เลยต้องไม่มีความสัมพันธ์กัน ออกนอกโลกไปก็ไม่มีทิศทาง ไม่มีเวลาอายุ  เวลากับทิศทาง คือ สิ่งที่สมมุติแค่ในโลกเพื่อให้มนุษย์สื่อสารกันเข้าใจ

  ความงมงายเป็นเรื่องของมนุษย์ ใช้อ้างหาผลประโยชน์(ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม) กับมนุษย์ด้วยกัน หากไม่มีผลประโยชน์ก็จะไม่เกิดความงมงาย


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 9
มนุษย์ก็ชอบสร้างอะไรแบบนั้น หาที่พึ่งทางใจ

แรกๆ ก็เคยคิดว่าใครจะเชื่อก็เชื่อไป ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
แต่หลังๆ พออยู่เป็นกลาง ก็เหมือนสนับสนุนพวกหากินกับคนมีทุกข์มากกว่า


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 11
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องนี้ค่ะ พวกธุรกิจปีชง รับแก้ชง ไม่เคยได้เงินเราเลย อยู่มา 40 ปี ชีวิตก็ปกติดี เพราะใช้ชีวิตแบบไม่ประมาทค่ะ ไม่ไปในสถานที่อโคจร ไม่สร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 12
ถ้าจริง เราเป็นมหาอำนาจโลกไปแล้วครับ
ฝรั่งมังค่า ไม่รู้จักอะไรแบบนี้หรอกครับ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 13
มันคือตัวเลขทางสถิติ หลายร้อยหลายพันปี

ศาสตร์จีนเขาเอามาทำเป็นตำรา

ชง มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ได้แปลว่าซวย คนเข้าใจผิดกันเยอะ

วงจรเศรษฐกิจยังเป็นทุก 7-10 ปีเลย ชีวิตคนก็ไม่ต่างกัน


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 17
บ่งบอกว่า สังคมป่วย จิตใจคนอ่อนแอ ต้องการหาที่ยึดเหนี่ยว สมัยก่อนถ้าลัทธิบูชาเทพเจ้า บูชาผี เจริญรุ่งเรือง ก็แสดงว่าบ้านนั้น เมืองนั้นใกล้ล่มสลายแล้ว


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 18
งมงาย


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 20
ตอนเรื่องปีชงออกมาใหม่ๆ แต่ละปีก็จะมีปีเกิดที่เป็นปีชงตรงๆแค่ปีเดียว

พอคนเริ่มเชื่อมาก ก็เริ่มซอยถึ่เป็นปีเกิดที่ชงมากชงน้อย ชงหมู่ กวาดกันหลายๆปีนักกษัตรในปีเดียว
กลายเป็นปีชงแทบทุกปี

ไม่ต่างกับหมอดูค่ายหนังสือพิมพ์ค่ายสีเขียวคนนึง
ทายว่า ทุกปีเป็นปีร้ายของบ้านเมือง ไฟไหม้ แผ่นดินไหว น้ำท่วม คนดังตาย
คำทำนาย copy เหมือนเดิมมาหลายสิบปีแล้ว


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 24
ชงมันเกือบทุกปีนักษัตร มีแค่ไม่กี่ปีที่ไม่ชง แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ การตลาดเกิน


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 27
ไม่เชื่อค่ะ ชงมันเกือบทุกปีเลย 25% บ้าง 50% บ้าน 75% บ้าง 100% บ้าง 55555 เป็นเรื่องการค้าชัดๆ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 29
ผมคนนึงไม่เคยเชื่อ ปีนักษัตรนึงคนกี่ล้าน ในล้านคนมันต้องมีดีบ้างมีไม่ดีบ้าง ถ้ามันแม่นจริง ในปีนักษัตรนั้นต้องเหมือนกันหมดทุกคนสิ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 30
เรื่องของความเชื่อ คนเชื่อก็เชื่อ คนไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ ผมอยู่ในส่วนของไม่ค่อยเชื่อ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 32
เราเชื่อ เรื่องลัคนา ราศี
แต่เรื่องปีชงนี่เราไม่เชื่ออ่ะ😅


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 35
คือมันลวงโลกมานานนนนนน มากกกกก แล้วค่ะ
ทำไมเพิ่งรู้ตัวกัน?


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 45
เชื่อมาตลอดตั้งแต่ได้ยินคำว่าปีชงครั้งแรก

เชื่อว่ามันมีเพื่อแก้ชง เพื่อหารายได้ล้วนๆเลย

มีแก้ชงแบบไม่เสียเงินไหม แบบนั่งสมาธิเฉยๆ ก็แก้ชงได้อ่ะ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 49
เคยเชื่อ และต้องไปแก้ชงถึง พุทธสถานที่นึง ตามที่หมอลักษณ์แนะนำไป
แต่พอไปแล้ว การไหว้ แต่ละ จุด ต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น จากชุดของไหว้อีก เพื่อให้ครบพิธี
ไปๆ มาๆ หมดไป พันกว่าบาท เลย

และมองเป้นเชิงพาณิชย์ มากไป


รู้สึกว่า ถ้าจะให้ สบายใจ เอาเงิน ไปทำบุญถวายโรงศพ ดีกว่า
( รวมทั้งหมอ ด้วย ที่เน้นขายสีผึ้ง ทาปาก )


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 52
การตลาด

การเงิน

ของมันขายได้

เพราะ มีคนซื้อ

จะให้ คน ซื้อ คือ ต้องทำให้เชื่อก่อน

มันก็วนไปหา การตลาด ที่ ทำให้เชื่อ ถือ ก่อน เป็นอันดับแรก

พระ ที่ผม นับถือ สอนแต่ การถือ ศีลห้า กับ รู้จักตอบแทน ผู้ มี พระคุณ กับเรา ตามสมควร
พอแล้ว ครับ


ไม่ต้องดิ้นรนให้มากความ เหนื่อยปล่าวครับ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 53
สมัยก่อนอยู่มา 30 ปี ไม่รู้จักปีชงเลย
พอรู้จักคนเชื่อเรื่องปีชงเท่านั้นแหละ
พอเราโชคไม่ดีหรือซวยเรื่องอะไร ก็จะกรอกหูว่าเนี่ยเพราะปีชงแหละซ้ำๆ ๆ ๆ

ต้องใส่สีนี้ๆ แก้เคล็ด  ต้องเลิกกินเนื้อสัตว์ บลาๆๆ ( จริงๆ ไม่ใช่คนนี้คนเดียวนะ ญาติเราก็มีเชื่อแบบนี้ แต่พื้นเพครอบครัวเราไม่ใช่คนจีน ไม่ได้เชื่อเรื่องนี้เลย แต่ญาติคนนี้เขาเป็นคนที่เชื่อทุกอย่างตามกระแสไปซะหมด เชื่อจัด พาเราไปไหว้ ไปทำนั่นนู่นนี่ ) จนเราเกือบจะเชื่อไปอยู่แล้ว
พอผ่านข้ามปีมา ก็ยังมีบางครั้งที่ซวยอยู่  เลยถามนางว่า ปีนี้ยังจะชงอีกเหรอ
นางหยุดคิดไปพักนึงแล้วบอกว่า เออ น่าจะชงข้างเคียงมั้ง ต้องไปแก้อีก
เราแอบคิดในใจ มีงี้อีก มันใช่เหรอวะ
ผ่านไป 12 ปี ปีชงวนย้อนกลับมาอีกรอบ
แต่ระหว่าง 12 ปีนั้น เราก็มีเรื่องดี เรื่องซวยผลัดเปลี่ยนเวียนมาเรื่อยๆ นี่ จนเริ่มคิดได้
ตั้งแต่นั้น จะปีชงยังไง ใครจะไหว้อะไรยังไงแล้วแต่เลย เราไม่สนใจดู ไม่สนใจฟังอีกเลย  อยากไหว้อะไร ทำอะไร แล้วแต่ตัวเราเอง

เราคิดว่า คนเราควรได้รับการถูกสอนตั้งแต่เล็กๆ ว่า  คนเรามีโชคดี-มีโชคร้าย, มีทุกข์-มีสุข, มีสมหวัง-มีผิดหวัง ปะปนระคนกันไป เป็นธรรมดามนุษย์
ไม่มีใครที่โชคดีอย่างเดียวไปตลอดชีวิต และก็คงไม่มีใครโชคร้ายตลอดไปทุกเรื่อง  เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป
หากผิดพลาดอะไรตรงไหนก็ควรใช้ความเป็นเหตุเป็นผลมาแก้ไข แล้วมันจะกลายเป็นประสบการณ์ให้เราไม่พลาดอีก
ถ้าเราไม่พิจารณาความเป็นเหตุเป็นผลใดๆ อะไรเลย  เอาแต่ไหว้ปะลกๆ เทพเจ้าอะไรก็อาจไม่ช่วยเลย


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 60
ไม่เคยสนใจเรื่องปีชง
อาจจะเพราะผมศึกษาทางพุทธมาเยอะ
แล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่พอถึงปีนี้ คนเกิดปีนี้จะแย่มันทุกคน

ผมเคยพิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นมาแล้วว่าปีชงทำอะไรไม่ได้
หลายปีก่อน เขาบอกกันว่าปีเกิดของผม ชง 100%
ทั้งเจ้านายและลูกน้อง ชวนผมไปแก้ชงสารพัด แต่ผมไม่ไปสักที่
และปีนั้นผลงานผมก็ดีมากๆ การงานราบรื่น ชีวิตดีมีสุข
จนคนรอบข้างมองว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ผมจะบอกว่าไม่แปลก


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 65
เขาจะขายของมันก็คือธุรกิจประเภทหนึ่งเหมาะสำหรับคนเชื่อจะเรียกว่างมงายก็ประมาณนึง


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 68
แค่เห็นวิธีทางแก้ชง ก็รู้แล้วว่าไร้สาระ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 72
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่อจำนวนมากๆ ทำให้เกิดเป็นธุรกิจ เป็นช่องทางให้คนเอาไปหากิน
เช่น เส้นทางท่องเที่ยว ทำเครื่องรางสำหรับสายมู

ส่วนตัวไม่เคยเชื่อค่ะ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 74
ผมไม่เคยเห็น ปธน สหรัฐ ไปแก้ปีชงสักคน
ก็เห็นแต่ละคนก็ยิ่งใหญ่คับฟ้า


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 76
มันคือการตลาดของหมอดู อย่างฮวงจุ้ยก็มีเพิ่มยุคนั่นยุคนี่ คนที่เชื่อก็ต้องคอยเปลี่ยนเรื่อยๆ
จากเมื่อก่อนแก้ครั้งเดียวกลายเป็นต้องแก้หลายครั้งตามยุค เสียเงินเรื่อยๆซินแสก็รวยขึ้นเรื่อยๆ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 80
เรื่องปัญญาอ่อน หากิน กับความงมงาย หลังๆเพี้ยนไปไกลถึง ชง 25 %   555


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 86
เรื่องลวงโลก เป็นการหาผลประโยชนฺ์ของหมอดูกับวัดศาลเจ้า


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 87
ปีชง จริงไม่จริงไม่รู้
แต่พูดกันแบบนี้
เท่ากับไปขัดผลประโยชน์
กับพวกที่หากินกับสิ่งเหล่านี้แน่นอน
คนพูดคงต้องระมัดระวังตัวไว้บ้างค่ะ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 92
พวกที่เชื่อปีชง ก็คือพวกไม่อยากยอมรับความสูญเสียใดๆ ไม่เชื่อในความอนิจจัง (ตรงข้ามกับหลักพระธรรมชัดๆ ยังมีคนแถว่าเป็นกุศโลบายให้คนทำเข้าวัด ทำดีเฉย) ไม่คำนวณความเสี่ยง จะเอาดีลูกเดียว หารู้ไม่ เกิดเป็นคน กว่าชีวิตจะหาไม่ มันก็ต้องเจออุปสรรค ปัญหา ความทุกข์ ความสูญเสีย แค่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท จากหนักก็จะเบา ไม่เห็นต้องไปจ่ายเงินให้หมอดู


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 93
ถ้าคุณเชื่อมันจะเป็นเรื่องจริงครับ

แต่ผมไม่เชื่อนะ ปีนี้ชงหรือไม่ชงมันก็มีดีมีซวยพอๆ กัน ไม่เห็นต่างกันเท่าไร


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 96
เอาตามตรง​ผมไปหลายประเทศมา เจอผู้คนมากมาย​ประเทศไม่เคยเห็นเขาเหล่านั้นบูชาอะไรมากมายเท่าคนไทย​ ​ใครว่าอะไรว่าตาม​คนไทยส่วนมากนับถือพุทธศาสนา​แต่​ ไหว้สักการะเทพเจ้าศาสนาฮินดูมีมากมาย​ ไหว้เจ้าแม่​ เจ้าพ่อต่างๆ​ แถมมีคำกำกับแบบห้ามแย้ง​ คือไม่เชื่ออย่าลบหลู่​ ประเทศอื่นๆ​ไม่มีไม้มงคลครับ​ บ้านเรา​มีไม้มงคล​ ปลูกแล้วจะร่ำรวยมีมงคล​ ซึ่งมันคือการตลาดล้วนๆ​ แต่ไม่มีคนแย้ง​  ส่วนวัดไทยพุทธ​ น้อยวัดที่จะไม่เป็นพุทธพาณิชย์​ เจ้าอาวาส​ นอนห้องแอร์​ มีรถประจำตำแหน่ง​ ทั้งที่ศาสนาพุทธเอง​ ไม่ได้มีบทบรรญัติ​ และอาจมีคนแย้งต้องทันโลก

      ครานี้มามี้รื่องฮวงจุ้ย​ ทำอย่างนี้ฮวงจุ้ย​ไม่ดี​ ทั้งที่คำๆนี้มาจากจีน​คนไทยคว้ามาใช้เลย​เอาทำตามเขา​  ครานี้มาเรื่องปีชงผมเพิ่งได้ยิน​ไม่นานนี้เอง​เขาว่าปีชง​เอาชงกันด้วยกัน​ไม่มีใครแย้ง​เฮ... ทำตามพูดตาม​
       สำหรับผม​ นับถือ​ พุทธ​ ไม่มีเทวรูปศาสนาอื่นๆในบ้านครับ​ มีพระพุทธรูป​ บนหิ้งกราบไหว้บูชา​ตามพ่อแม่พาทำ​และ​ไปวัดทำบุญ​วัดยากจน​ ผมจะไม่เข้าวัด ร่ำรวย​เจอเจ้าอาวาสต้องนัดวัน​ไม่ไปครับ​ของถวายวัดจะสอบถามเจ้าอาวาสขาดเหลืออะไร​ผมจะถวาย​ ตามที่ท่านบอกมา เรื่องฤกษ์ยาม​ ไม่มีครับ​ทำอะไรทำเลย​  ไม่เคยเอาพระมาเจิมรถ​ ไม่เคยดูฤกษ์ยามไปออกรถ​ รถมีหลายคันไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ​ และไม่เคยเอาพระไว้บนรถ​เกรง​เวลาเลี้ยวพระกระเด็นกระดอนครับ

       ถามว่าแล้วเชื่อไหม​ ฮวงจุ้ย​ปีชง​ ฤกษ์​ ยาม​ หมอดู​ ไม่เชื่อครับ​ชีวิต​ลิขิตเองครับ


อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 98
ตั้งแต่เกิดมา...ไม่เคยแก้ชงอะไรเลย มีดีมีร้ายสับเปลื่ยนกันมาตลอด มันคือชีวิตที่มีขึ้นๆลงๆ ตามกรรมที่สร้างมา จะทำก็แค่...ทำทาน ใส่บาตร
ยิ่งมารู้ว่าสมัยนี้มีชง 50% 40% 30% 20% มีชงร่วมโผล่ออกมาอีกต่างหาก ถึงกับอะไรว้าเลย







ลิ้งค์
www.gpsteawthai.com/index.php/topic,7730
www.gpsteawthai.com/index.php/topic,7731

 
7
และก็ฝากบอกคนรู้จักผมทุกคน

ถ้ามี ทวิตเตอร์ของผม หลุด ไปสร้างความเดือดร้อนอะไร

แจ้งความดำเนินคดีได้ทันทีครับ

ผมให้เต็มที่เลย และฝากโทรแจ้งผมด้วย 081-8462316

ผมจะได้ยืมมือท่านจับยัดมันเข้าคุกด้วย
8
ตัวอย่าง/หลักฐาน ว่ากำลังมีใครเจาะโซเชี่ยลผม คนไหนที่ไม่เคยเห็นมาดูนะครับตาจะได้สว่าง
เพราะเห็นโพสกันจังว่า...กำลังแฮกเฟส เรา โน่น นั่น นี่



    ปกติผมก็สมัครโซเชี่ยล โน่น นั่น นี่ เยอะไปหมด เพื่อตามหาเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาแต่ประถม-ปัจจุบัน เพราะสมัยนี้ สื่อ โซเชี่ยลมันทันสมัยมาก สามารถโยงเพื่อนตรงโน้น ตรงนั้น ตรงนี้มาหาเราได้ ก็เลยสมัครไปเรื่อย

    แต่พอใช้โซเชี่ยลแต่ละตัวไประยะนึงไม่ตอบโจทย์ผม ก็เลยหาทางพยายามลบทิ้ง แต่สารพัดโซเชี่ยลมันไม่ยอมให้ลบครับ (ไม่รู้ว่ามันเป็น..เ.หี้.ย..อะไรของมัน ขออนุญาตพูดหยาบๆแบบนี้แหละ เว็บผมเองไม่สนใครอยู่แล้ว ) ถึงไม่ยอมให้ลบ เมื่อลบไม่ได้ผมก็จำเป็นคือไม่ล็อกอินเข้าไป และ บล็อกข้อมูลที่แอปตัวนั้นมันส่งหาเรารายวัน

   แต่มาหลายวันนี้ มันมีสิ่งผิดปกติ คือ มีโจรกระจอก ย้ำว่า โจรกระจอกมันพยายามเจาะ Twitter ของผม ผมจะไม่เรียกว่าแฮกเกอร์ ตามคนไทยมั่วเค้าพูดกันนะครับ

   เพราะ แฮกเกอร์ เค้าไม่ทำสิ่งชั่วร้ายกระจอกๆแบบนี้ครับ แฮกเกอร์ เค้าจะเจาะอะไรก็ตามที่สำคัญๆระดับประเทศ ระดับโลกครับ มันมีความภาคภูมิใจกว่า และมีมูลค่าทางเงินที่มหาศาลกว่า คือพูดง่ายว่าเจาะระบบที่สร้างความเสียหายมหาศาลมากกว่าไปเจาะโซเชี่ยลกระจอกๆครับ

   จำไว้นะครับ แฮกเกอร์ เค้าจะไม่ทำเรื่องกระจอกๆ แน่นอน คนวงการเน็ตเวิร์คไอทีเค้ารู้กันทั้งโลก จะมีก็แต่คนไทยนี่แหละที่ไม่รู้ พยายามหาคำหรูๆมาพูด เพื่อยกตนว่ามีเกรด ก็เท่านั้นครับ

   

อ้างถึง
   แต่มันมีเคสนึงที่หลายคนสับสนมาตลอด ที่เฟส (เฟซ) มันส่งข้อความมาหาท่าน บอกมีคนกำลังเจาะ...ท่านที่สัตหีบ หรือ บอกสถานที่ โน่น นั่น นี่ อันนั้นไม่ใช่นะครับ ผมก็เจอประจำ และเจอบ่อยด้วย เลยทราบ
   มันเป็นระบบบริหารจัดการเน็ตเวิร์ค ของผู้ให้บริการเน็ตมันทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่ใช่เจาะ...ของท่าน แต่ระบบซีคิวริตี้ของโชเชี่ยลนั้นมันติ๊งต๊องโวยวายว่ามีคนกำลังเจาะ....ของท่าน ท่านก็ตีโพยตีพาย....กันทันที



อ้างถึง
การป้องกันโจรกระจอกขโมยเจาะโซเชี่ยล มีวิธีดังนี้

1. ลงทะเบียนโซเชี่ยล ผูกไว้กับเมล์
    เมล์ที่ใช้ลงทะเบียนควรเป็นเมล์มาตรฐาน เช่น Yahoo, Hotmail, Gmail เป็นต้น เพราะเมล์พวกนี้เค้าทำเป็นธุรกิจระดับโลก ฉะนั้นระบบรักษาความปลอดภัยจะสูงมาก
   อย่าไปใช้เมล์องค์กร เมล์บริษัทที่ตนทำงาน เมล์ของเว็บต่างๆ เพราะเมล์พวกนี้ คนดูแลไม่ซื้อสัตย์ท่านจะลำบาก มันสามารถเอาเมล์ของท่านไปใช้งานโดยที่ท่านไม่รู้ตัวได้
   ทำอย่างไรเมื่อมีเมล์ของจริงส่งมาจากโซเชี่ยล....เพื่อบอกท่านว่ากำลังมีใครเจาะ...ท่าน ท่านควรทำตามที่เค้าแนะนำ เช่น เข้าไปเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ ถ้ารู้ว่ารหัสมันง่ายไป หรือ อยู่เฉยๆถ้าคิดว่ารหัสผ่านขั้นเทพ
   และที่สำคัญ เมล์ ท่านจะต้องเปิดดูประจำ ไม่ใช่มีเมล์แล้วทิ้งๆ ขว้างๆ อันนี้ก็จบข่าวเช่นกัน

2. ลงทะเบียนโซเชี่ยล ด้วยเบอร์มือถือของท่าน
    เบอร์มือถือสำคัญต่อการผูกโซเชี่ยลไว้ครับ อย่าเปลี่ยนเบอร์มือถือเป็นว่าเล่น เพราะเบอร์ที่ท่านปล่อยทิ้งร้าง มันอาจผูกไว้กับโซเชี่ยลใดๆที่ท่านอาจลืม พอเบอร์นี้ตกไปอยู่กับผู้ไม่หวังดี แน่นอนท่านเดือนร้อนแน่ๆ
    ฉะนั้น ไม่ควรเปลี่ยนเบอร์มือถือเป็นว่าเล่น เพราะเวลาโซเชี่ยลมันให้ยืนยันตัวตนผ่านมือถือด้วย แต่ติดต่อไม่ได้ หรือยืนยันตัวตนไม่ได้ โจรกระจอกเค้าดำเนินการแต่งเมล์ไปหรอกแอดมินฯโซเชี่ยลว่าเบอร์นี้ไม่ใช้แล้ว กรุณาเปลี่ยนเบอร์นี้ไปผูกกับ...ให้หน่อย แบบนี้จบข่าวทันที

3. รหัสผ่าน ต้อง ซับซ้อนหน่อย
    อักษรเล็กใหญ่ผสมกันมีตัวเลขด้วย

*** ถ้าท่านมี 3 อย่างอยู่ในมือ จะไม่มีโจรกระจอกที่ไหนเจาะระบบท่านได้ และก็จะไม่มีท่านไปแหกปากโวยวายบนสื่อสารพัดให้น่าอาย***










นี่ครับการพยายามเจาะ....ของจริงต้องตามภาพครับ





1.






2. ข้อความที่เมล์ส่งมาจากทวิตเตอร์ ความว่า
อ้างถึง
เราสังเกตเห็นความพยายามที่จะเข้าสู่บัญชีของคุณ @SIC17557225 ที่ดูน่าสงสัย นี่คือคุณใช่ไหม?

ถ้านี่คือคุณ
เพื่อความปลอดภัย ในการเข้าสู่ระบบบัญชีนี้ คุณจะต้องยืนยันว่านี่คือคุณจริงๆ โดยป้อนรหัสแบบใช้ครั้งเดียวต่อไปนี้
wx93j...

ถ้านี่ไม่ใช่คุณ
ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ทันทีเพื่อปกป้องบัญชีของคุณ
เปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ. คุณจะออกจากเซสชัน Twitter ที่ใช้งานอยู่ทั้งหมด ยกเว้นเซสชันที่คุณใช้อยู่ในขณะนี้
ตรวจสอบแอปที่สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณและเพิกถอนการเข้าถึงแอปที่ไม่คุ้นเคย เรียนรู้เพิ่มเติม.




9


ถึงที่พักFcจากพม่านั่งดูคลิปอุ๋งอิ๋ง4 กุมภาพันธ์ 2567

10
ไอ้หนุ่มเครื่องไฟ - ปลาคาร์ฟ เชิญยิ้ม | โจ๊กตัดโจ๊ก ต้นฉบับสลับเพลง


หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
                             
GPStt.com จะแสดงผลถูกต้อง ฟ้อนต์สวยงาม เข้าเว็บได้เร็ว เมื่อท่านใช้เบราเซอร์ Chrome และ Firefox เท่านั้น ไม่รองรับ Internet Explorer  

กลุ่มท่องเที่ยว การท่องเที่ยว (ททท.) | ททท.ภาคกลาง | ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก | กรม อช.สัตว์ป่าและพันธุ์พืช | จองที่พัก อช.ระบบออนไลน์ | จังหวัดแม่ฮ่องสอน | ททท. สนง.แม่ฮ่องสอน | ศูนย์ศิลปาชีพ จ. แม่ฮ่องสอน | กระทรวงวัฒนธรรม | ศูนย์ข้อมูลมรดกโลก(ก.วัฒนธรรม) | สำนักอุทยานแห่งชาติ | เว็บโครงการหลวงฯ | แหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ (สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว)
การเดินทาง, เครื่องนำทาง การบินไทย | โอเรี่ยนไทย | แอร์เอเชีย | Solar Air | บางกอกแอร์เวย์ | บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) | การรถไฟแห่งประเทศไทย | สมบัติทัวร์ | สยามเฟิสท์ทัวร์ | นครชัยแอร์ | รถทัวร์ไทยดอทคอม | ฟรี.. แผนที่GPS ลาว กัมพูชา พม่า (ทั่วโลก) แบบเทพๆ | ดูกล้อง CCTV ทางหลวง 1 | ดูกล้อง CCTV ทางหลวง 2
ลิ้งค์ที่น่าสนใจทั่วไป.. ติดตามการส่งพัสดุEMS | ตรวจผลสลาก.. | speedtest.adslthailand.com | บอร์ดนักวิทยุสมัครเล่น | ตรวจสอบการเป็นนักวิทยุสมัครเล่นจากชื่อหรือนามเรียกขาน |ตรวจสอบนามเรียกขานที่ถูกยกเลิก | กสทช.กิจการวิทยุสมัครเล่น (เค้าอัพเดทแล้วนะ 31/1/60) | Checkdomain.com | ดาวน์โหลดวีดีโอจากเฟซบุ๊ค | ร้านซ่อมดอทคอม | แปลงไฟล์ออนไลน์ youtube เป็น mp3 ลิ้งค์1, ลิ้งค์2, ลิ้งค์3 | convert PDF to JPG | ตระกูลแปลงไฟล์ | แปลงไฟล์ ภาพ webp เป็น jpg | หมากรุกออนไลน์ | ทีวีออนไลน์ | แปลงไฟล์เสียงออนไลน์ | ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย | หมากรุกออนไลน์ | เว็บแปลงค่า-1 | เว็บแปลงค่า-2 | ค้นหาและแบ่งปันหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก | แปลงลิ้งค์ URL ให้สั้นลง | โปรแกรม PhotoRoom ลบฉากหลังของภาพออนไลน์ | เช็คคีย์บอร์ดออนไลน์ ก่อนเสียเงินซื้อใหม่ |