:: GPStt.com ::

หมวด บอร์ดทั่วไป
=> มุมสนทนา เฮฮา ข่าวสารทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Nanthawat (Modฯ) ที่ 18 เมษายน 2560, เวลา 21:37:32 น.

หัวข้อ: ‘สลา คุณวุฒิ’ จากครูบ้านป่าถึงครูเพลงลูกทุ่งไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Nanthawat (Modฯ) ที่ 18 เมษายน 2560, เวลา 21:37:32 น.
‘สลา คุณวุฒิ’ จากครูบ้านป่าถึงครูเพลงลูกทุ่งไทย
http://www.onsorn.com/forum/index.php?topic=13994.0 (http://www.onsorn.com/forum/index.php?topic=13994.0)


ชื่นชมท่านเป็นการส่วนตัว ผมว่าหลายคนก็ชื่นชม เพราะครูสลา ท่านเก่งจริงๆ

อ้างถึง
‘สลา คุณวุฒิ’ จากครูบ้านป่าถึงครูเพลงลูกทุ่งไทย

กว่าผลงานครูสลาจะเป็นที่ยอมรับ กว่าที่ครูสลาจะมาเป็น ‘สลา คุณวุฒิ’ ที่ใคร ๆ รู้จักเช่นทุกวันนี้ เขาผ่านพบอุปสรรคต่าง ๆ นานามามากมาย ด้วยระหว่างการเดินทางของชีวิต ที่ใคร ๆ ต่างเรียกเขาว่า ‘ครูบ้านป่า’....จนถึง ‘ครูเพลงลูกทุ่งไทย’ คนที่วันนี้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของใคร ๆ มากมายนั้น...ชีวิตเขาถือเป็นแบบเรียนที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง

ครูมีความฝันจะเป็นนักร้องนักแต่งเพลงมาตั้งแต่แรก:
เรื่องร้องเพลงเรื่องแต่งเพลงไม่ได้คาดหวังอยากจะเป็น แต่มันชอบโดยธรรมชาติ...คนในบ้านผมถ้าใครมีพรสวรรค์เรื่องการร้องบ้าง จะชอบร้องเพลงกันทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผม แต่เขียนเพลงนี่มีน้อย...ที่เขียนเพลงเริ่มมาจากมีศิลปินตาบอดในหมู่บ้านท่านหนึ่งชื่อ ศิลปินบุญมา...แกแต่งกลอนสดเก่งมาก เห็นใครก็แต่งได้เลย...ผมกับพี่ชายก็ตามประสาเด็ก ตามไปดู เห็นแล้วทึ่งมากว่าแกแต่งได้ยังไง พี่ชายบอกว่าพี่ก็แต่งได้เหมือนกัน เขาก็พาแต่งกลอน...มาแต่งจบเพลงจริง ๆ ก็ตอนที่ปั่นจักรยานจากหมู่บ้านมาเรียนที่โรงเรียนป่าติ้ววิทยา เป็นช่วงที่จบจากป.7 แล้วไปเรียน ม.1-ม.3 เป็นช่วงเข้าสู่วัยรุ่น เริ่มสนิทกับเพื่อน แล้วก็อวดกันเรื่องจีบสาวมั่ง อวดความสามารถกันมั่ง ตรงนี้เองที่ทำให้แต่งเพลงได้

แล้วมีเพลงที่ได้บันทึกเสียงจริงๆ จัง ๆ ตอนไหนคะ:
ตอนเรียน ปกศ.สูงปีสุดท้ายผมก็ตั้งวงดนตรีกับเพื่อน ที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะว่ามันทำให้ผมได้แต่งเพลงซึ่งต่อมา อ.รุ่งเพชร แหลมสิงห์ เอาไปบันทึกเสียงเป็นเพลงแรก...วันนั้นมี ชาย เมืองสิงห์ มีรุ่งเพชร แหลมสิงห์ ไปเล่นที่เมืองอุบลฯ เพื่อนที่เป็นกำลังใจทั้งหลายแหล่ก็พาผมเอางานไปเสนอ อ.รุ่งเพชร
จนเป็นครูได้ประมาณ 6 เดือน ขณะที่ผมนั่งซักผ้าอยู่ เพื่อนครู จากอีกโรงเรียนหนึ่งก็ขับมอเตอร์ไซค์มาหาอย่างเร็วเลย แจ้งข่าวดีบอก สลา สลา โอ๊ย...ดังใหญ่แล้ว ๆ เห็นชื่อลงในหนังสือพิมพ์ เขาบอกสลาแต่งเพลงให้รุ่งเพชร แหลมสิงห์...แกก็ลงเชียร์อย่างดี มีนักแต่งเพลงหน้าใหม่จากอุบลฯ ชื่อ สลา คุณวุฒิ แต่งเพลง สาวชาวหอ (https://youtu.be/eyftOB1jcvI) ให้รุ่งเพชร รุ่งเพชรจะกลับมาก็มีการโปรโมทกันใหญ่

หลังจากนั้นก็ตั้งวงดนตรี
ตั้งวงดนตรีชื่อวง ‘เทียนก้อม’ ขึ้นมา เลยทำให้แต่งเพลงมากขึ้น พอแต่งเสร็จก็เหมือนเดิม เพลงไหนดีเพื่อนก็ยุให้ส่งไปอัดแผ่นเหมือนเดิม ยิ่งตัวเองมีทางเพราะเคยส่งไปแล้วก็ยิ่งส่ง ตอนนั้นก็วางมือไม่ค่อยเขียนเรื่องสั้นแล้ว ปี 2525 เพลงเราฟลุ้กได้อัดแผ่น แต่ปรากฏว่าหลังจากเพลงนั้น ปี 2525-2528 ส่งไปก็เงียบหมดเลย ขยันด้วย แต่งได้เร็วมาก วันละ 2-3 เพลงก็แต่งได้ คิดอะไรเขียนเป็นเพลงหมด เขียนเสร็จก็ส่ง ๆ แต่เงียบหมด จนกระทั่งวงดนตรีเติบโตขึ้นตามลำดับ
ที่เริ่มจะมาเป็นนักแต่งเพลงเพราะส่งไปแล้วไม่มีใครตอบรับเลยต้องตั้งวงเอง...พอเดินต่อมาสักระยะมันก็ไม่ไหว มันไม่ได้อย่างที่คิดก็คิดว่าจะหยุดแล้ว..ก็กำลังจะหันหลังให้เรื่องเพลงแล้ว พอดีแม่ป่วยหนักมาก แล้วเราไม่มีรายได้อย่างอื่นเลย มันเป็นตัวบีบ
ผมคิดว่ารายได้พิเศษนอกจากการรับเงินเดือนคืออะไร มันก็มองเห็นอย่างเดียวคือแต่งเพลง ไอ้เรื่องสั้นก็คงไม่ไหวแล้ว พอแม่ป่วยหนักผมเลยหันมาเขียนเพลงตลาด เมื่อก่อนคือเขียนเพลงให้ตัวเองร้อง แต่ตอนนี้เขียนเพลงเพื่อจะส่งเดาสุ่มอีกครั้งหนึ่ง ปี 2535 แม่ป่วยหนัก ผมเขียนเพลงลูกทุ่งได้ 8 เพลง เขียนสาดไปเลย พอเมษาฯ 2535 แม่ก็เสีย เพลงที่เขียนไว้ยังไม่ทันได้ส่งไปไหนเลย หลังจากแม่เสียผมเลยถือเพลงทั้งหมดมากรุงเทพฯ เพราะตอนนั้นเพื่อนบอกว่ามีค่ายชัวร์ ออดิโอ ซึ่งตอนนั้นชื่อสยามชัวร์ เขาเปิดโอกาสให้นักแต่งเพลงหน้าใหม่ได้เสนอผลงาน
ผมส่งเพลงประมาณพฤษภาคม 2535 กลางปี 2536 ทางชัวร์ ออดิโอโทร.ไปที่บ้าน ถามว่าเพลงชุดนี้อาจารย์ ขายไปหรือยังเพราะบริษัทเพิ่งได้ฟัง


แล้วไปมาอย่างไรครูถึงมาอยู่แกรมมี่คะ :
พอกระทงฯดัง พี่ตี่ผู้บริหารที่แกรมมี่ โกลด์ ก็เริ่มให้คนถามหา แกบอกอยากเชิญมาร่วมงาน ตอนนั้นไมค์ ภิรมย์พร เข้ามาอยู่แกรมมี่แล้ว ใครมีผลงานมีชื่อเสียงก็ถูกเชิญเข้ามา ผมเป็นหนึ่งในนั้น

ครูมีวิธีคิดในการเลือกอย่างไรคะ ระหว่างอาชีพครูที่ครูรักมาก กับอาชีพนักแต่งเพลงที่กำลังไปได้ดี :
ผมมาตัดสินใจได้ตรงนี้ เพื่อนครูด้วยกันที่เคยให้สนับสนุนให้เป็นผู้แทนครูเขาบอกว่า ให้มาเป็นนักแต่งเพลงเถอะ เพราะอาชีพครูนี่ สายบริหารหรืออะไรก็ตาม ยังมีเพื่อนคนอื่นที่จะเป็นแทนได้ ตำแหน่งครูใหญ่ไม่มีครูสลา คนอื่นเขาก็มาเป็นได้ แต่นักแต่งเพลงนี่ ใครอยากเป็นเขาก็ไม่ให้เป็นนะ

ตอนที่มาอยู่แกรมมี่แล้ว เพลงที่สร้างชื่อให้ครูมีเพลงอะไรบ้างคะ :
เพลงยาใจคนจน (https://youtu.be/j7_EO6OffmY) ของไมค์ แล้วก็มาได้เนื้อ ๆ เลยที่เป็นความภูมิใจมากของผมก็คือ ‘ปริญญาใจ’ (https://youtu.be/Rkh9Enepk5U) ซึ่งเป็นชุดที่พี่ตี่วางไว้ให้ผมดูแลอัลบั้ม ผมเลือกเพลงเอง แต่งเพลงเองส่วนใหญ่ เวลามีเพลงคนอื่นมาผมจะเลือกโดยอาศัยความรู้จากพี่ ๆ แกให้มา ทำหน้าที่เป็นโปรดิวซ์ เสร็จแล้วเพลงมันโดน มันดัง ขายได้ล้านกว่าตลับ ยิ่งใหญ่มาก นี่คือส่วนของแกรมมี่ ขณะเดียวกันผมแต่งเพลง ‘รองเท้าหน้าห้อง (https://youtu.be/kJBy6z0Rpnk)’ ให้ ท็อป ไลน์ อันนั้นก็ล้านกว่า จากนั้นก็มาเพลง ‘หัวใจคึดฮอด (https://youtu.be/YxXDMOVSEdY)’ แดง จิตรกร ตอนนั้นมันมาหลายเพลง ‘พี่เมาวันเขาหมั้น (https://youtu.be/ha4K5bE2eqc)’ แมน มณีวรรณ ที่แกรมมี่หลังจากศิริพร ก็มาได้ชื่อจากต่าย อรทัย ‘ดอกหญ้าในป่าปูน (https://youtu.be/kGHBFvG5R1Q)’ ‘โทร.หาแหน่เด๊อ (https://youtu.be/AD046bek2Mg)’ อันนี้ไม่ดังแรง แต่ยอดไปดีมาก ทุกวันนี้เจ็ดแสนกว่า ๆ ถือว่าสูง แล้วมาเพลง ‘ต้องมีสักวัน (https://youtu.be/3zOnjjuGuRk)’ ของก๊อต จักรพรรณ์

ขั้นตอนการเขียนเพลงของครูเป็นอย่างไรคะ :
ผมจะมีสมุดกับปากกาติดตัวตลอด ถ้าแว้บเข้ามาจะรีบจดเลย ไม่งั้นถ้าลืมจะหงุดหงิดมากเลยเพราะเสียดาย มีคนถามเหมือนกันทำไมต้องสะพายย่ามเล็ก ๆ ตลอด เป็นโลโก้เลย ผมบอกไม่ใช่เลย เวลาคิดอะไรได้ถ้าหาปากกาไม่เจอมันจะลืม จะเครียดมากกว่าคิดไม่ได้เสียอีก ผมว่าทุกคนก็คงเป็น สมุดก็จะอยู่ในกระเป๋า ถ้าหยิบสมุดไม่ทันจะจดใส่มือแล้วก็รีบไปบันทึก ผมจะเขียนไอเดียและคำ บางครั้งไอเดียมันก็กลายเป็นคอนเซ็ปต์ทั้งหมด บางครั้งได้เฉพาะคำเด่น ๆ แล้วเราค่อยไปคิดต่อ จะเป็นอย่างนี้ ทำจนเป็นนิสัย

และในฐานะที่ครูอยู่มาในวงการลูกทุ่งถึงสองทศวรรษ ครูอยากเห็นอะไรในวงการลูกทุ่งไทยในอนาคตบ้างคะ :
ผมอยากให้วงการเพลงเป็นวงการเพลงโดยรวม ไม่อยากจะให้แบ่งว่าเป็นลูกทุ่ง สตริง เพลงมันแบ่งกันโดย รูปแบบของงาน แต่ใจคนทำงานผมไม่อยากให้แบ่ง และไม่อยากให้ตีค่าแบ่งแยกกันในความรู้สึก อย่างโครงการสองทศวรรษครูสลาทุกวันนี้ต้องการสู้เรื่องนี้ คือการหลอมทุกคนเป็นหนึ่งเดียว
ถ้าถามว่าวันข้างหน้าอยากให้เป็นอย่างไร ผมก็อยากให้จุดนี้พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนเหลือเฉพาะคำว่าวงการเพลงที่ดี ที่มีคุณภาพ มีคนคุณภาพ และก่อประโยชน์แก่สังคมเพราะจริง ๆ แล้วเพลงมันมีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข แต่นอกจากมีความสุขแล้ว ถ้าทำได้อยากให้มันมีคำว่า ‘สร้างสรรค์’ เสริมเข้าไปด้วย


ชื่อครูสลาจะยังคงถ่ายทอดความสุขผ่านบทบาทเพลงสู่คนฟังตลอดไป ตราบเท่าที่คนไทยจะยังคงต้อนรับงานเพลง ของคนเขียนเพลง นาม ‘สลา คุณวุฒิ’ ตลอดไป

--------------------------------------------------------
ที่มา
จาก นิตยสารขวัญเรือน